รับตัว 4 คนไทยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นดูดเงินตั้งฐานในจีน กลับมาดำเนินคดี หลังจีนคุม 6เดือน

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท. ผบช.สตม. พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงษ์ รรท.รองผบช.สตม. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท. ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รองผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.บดินทร์ เพ็ญ สูตร สว.ฝอ.บช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจ 191 อรินทราช และสตม. รับตัวนายวสันต์ เครือตาอายุ 29 ปี น.ส.บุษบา นานะธารา อายุ 33 ปี นายนัฐพงษ์ สังขวรรณ อายุ 21 ปีและน.ส.อิเชียง บุญทอง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย จากประเทศจีน จำนวน 4 คน มีหมายจับศาลอาญามาดำเนินคดีต่อที่ประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้ทางศปอส.ตร สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจประเทศจีนบุกทลายแก๊งดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณคอนโดหรู หลงฉวนฮวาถิง เมืองจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน โดยจับกุมคนไทยซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ 5 คน ภายหลังทางการจีนได้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ ประเทศไทยแล้วหนึ่งราย เหลือเพียงอีก4 ราย ยังกลับไม่ได้ วันนี้ทางการจีนได้ประสานส่งตัวผู้ต้องหาที่เหลือให้กับทางการไทยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามจากการปฎิบัติการทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในต่างแดน และจับกุมคนไทยที่ไปทำงานให้กับขบบวนการดังกล่าวได้นั้น ทั้งเวียดนาม ดูไบ จีน มาเลเชีย ไต้หวัน ได้ส่งตัวกลับประเทศหมดแล้ว เหลือเพียงคนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศกัมพูชาที่ยังถูกทางการของกัมพูชาดำเนินคดีซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างการประสานเพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีต่อที่ประเทศไทย อย่างไรก็ดีกระบวนการหลังจากนี้จะทำการแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image