สื่อตุรกีแฉ! เทปเสียงมัดฆ่าโหด ‘คาช็อกกี’ ชี้ ‘ตัดนิ้ว’ ก่อนสังหาร

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม หนังสือพิมพ์ เยนีซาฟัค สื่อท้องถิ่นนิยมรัฐบาลตุรกี เผยแพร่รายละเอียดของเสียงที่บันทึกไว้ ซึ่งอ้างว่าเป็นเสียงที่บันทึกไว้ระหว่างที่นาย จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองในตะวันออกกลางชาวซาอุดีอาระเบียถูกสอบปากคำ ทารุณกรรมและสังหาร ภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ประจำนครอิสตันบุล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา

เสียงที่บันทึกได้นอกจากแสดงให้เห็นว่านายคาช็อกกี ถูกทรมานด้วยการตัดนิ้ว ต่อด้วยการฆ่าอย่างเลือดเย็นภายในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ก่อนที่จะตัดศีรษะและชำแหละแยกชิ้นส่วนร่างกายของคอลัมนิสต์รายนี้เพื่อลำเลียงออกจากสถานกงสุลแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่านายโมฮัมเหม็ด อัล-โอตาอิบี กงสุลใหญ่ซาอุดีอาระเบียรู้เห็นอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย เพราะเป็นผู้บอกกับกลุ่มมือสังหารว่าขอให้ไปทำนอกสถานกงสุล เพราะจะทำให้ตนเตือดร้อน แต่ได้รับคำตอบว่าถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่เมื่อกลับไปซาอุดีฯก็ให้อยู่เงียบๆ

นายอัล-โอตาอิบี เดินทางกลับซาอุดีอาระเบียเมื่อบ่ายวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทางการตุรกียืนยันว่าเป็นการเดินทางกลับเอง ไม่ได้เป็นการขับตามธรรมเนียมการตอบโต้ทางการทูตแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอย่างน้อย 7 คนทั้งของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งใช้เวลาราว 2 สัปดาห์หลังการหายตัวไปของนายคาช็อกกี สืบหาข่าวกรองจากแหล่งข่าวและวิธีการตามแบบฉบับของตัวเองยอมรับว่า ข่าวกรองที่ได้จากแหล่งข่าวเหล่านั้นยืนยันข้อเท็จจริงบางส่วนของรายงานข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่รายงานเรื่องนี้โดยอาศัยพื้นฐานจากเทปบันทึกเสียงที่รั่วไหลออกมา ในขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ อ้างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงผู้หนึ่งของตุรกีว่าเป็นผู้ยืนยันรายละเอียดทั้งหมดที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เยนีซาฟัค

Advertisement

ในขณะที่รอยเตอร์อ้างว่า ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ทางตุรกีมีเสียงบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และกำลังเตรียมส่งมอบให้กับทางการซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอเมริกาเพื่อพิจารณาด้วย แต่ยังไม่มีการส่งสำเนาเสียงออกไปแต่อย่างใด

แหล่งข่าวของรอยเตอร์ระบุในเวลาต่อมาว่า การที่ตุรกีลังเลที่จะส่งสำเนาเสียงดังกล่าวที่เป็นหลักฐานสำคัญที่ชัดเจนที่สุดออกไป แสดงให้เห็นว่ารายละเอียดของการสังหารแบบอำมหิตสุดขีดดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นจริง

ที่สหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จำเป็นต้องออกมายืนยันชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า ไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานกงสุล เพื่อประโยชน์ของทางการซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทรัมป์เคยอ้างอิงถึงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเป็น “ลูกค้าที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมอาวุธอเมริกัน” โดยระบุว่า ตนเพียงต้องการรู้ข้อเท็จจริงว่าอะไรเกิดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้หาทางช่วยปกปิดให้กับซาอุดีอาระเบียแต่อย่างใด

Advertisement

การปฏิเสธดังกล่าวมีขึ้นหลังจากวุฒิสมาชิก 9 คนของพรรคเดโมแครตร่วมกันทำจดหมายเปิดผนึกแสดงความกังวลเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ของทรัมป์ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธทันควันว่าเป็นข่าวปลอมเพราะตนไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ ที่นั่น

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การประชุมสัมมนาด้านการลงทุนที่กำหนดจะมีขึ้นในซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้ากร่อยลงเรื่อยๆ ผู้ที่ถอนตัวไม่เข้าร่วมรายล่าสุดคือนางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยได้เลื่อนกำหนดเยือนตะวันออกกลางและซาอุดีอาระเบียออกไปไม่มีกำหนด ส่วนนายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐขอตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image