เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิทธ์ รองผบก.น.1 ได้รับรายงานการจับกุมคดีที่น่าสนใจจาก พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท ว่า พ.ต.ท.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ รอง ผกก.สน.พญาไท ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท นำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท จับกุมตัวนายจิรวัฒน์ หรือเนม ศรีวงศ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2373/2561 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2561 ในข้อหา“วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ท่ารถเทพประเสริฐ ม.11 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเวลาประมาณ 07.10 น.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เวลาประมาณ 18.20 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายเป็นชายทำทีมาเลือกซื้อ สร้อยคอทองคำรูปพรรณ ที่ห้างเพชรทองศรีโต๊ะกัง ชั้น1 ห้างเซ็นจูรี ปากซอยรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยทางพนักงานร้านหยิบสร้อยคอทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 5 บาท และจี้ทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่ารวมกว่า 105,000 บาท มาให้เลือกชม ก่อนคนร้ายฉวยโอกาสที่พนักงานเผลอหยิบสร้อยคอและจี้ทองคำดังกล่าววิ่งออกจากห้าง และขับขี่รถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ ขับขี่หลบหนีไป
จากนั้นทางตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไทได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าทางร้านแห่งนี้มีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ต่อมาได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายเป็นนายจิรวัฒน์ หรือเนม มีอาชีพขับขี่รถวินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ปากซอยราชวิถี 7 ซึ่งทางตำรวจได้เร่งตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีพบอีกว่าคนร้ายได้ขึ้นรถโดยสารไปยัง จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งทางตำรวจได้เบาะแสว่าคนร้ายหลบหนีไปกบดานอยู่บ้านแฟนสาว อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบแต่เมื่อไปถึงพบว่าคนร้ายไหวตัวทัน เนื่องจากบ้านที่คนร้ายหลบหนีมานั้นมีสภาพเป็นป่าเขาสลับซับซ้อน โดยคนร้ายชำนาญเส้นทางจึงได้หลบหนีอีกครั้งไปยังจ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จนกลับมาหาแฟนที่บ้าน จ.เพชรบูรณ์ อีกครั้ง ซึ่งทางตำรวจได้วางแผนไว้ จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ และควบคุมตัวสอบสวนที่สน.พญาไท
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยให้คำมั่นสัญญากับทางแฟนสาว รวมทั้งพ่อแม่ครอบครัวแฟนสาวว่าจะนำสินสอดเป็นเงินและทองคำมาสู่ขอ เพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน หลังจากออกพรรษาปีนี้ให้ได้ แต่เมื่อใกล้ถึงวันตามที่กำหนดไว้ เงินจากอาชีพขับขี่วินฯ นั้นไม่เพียงพอ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว จากนั้นตั้งใจเดินทางไปกบดานที่บ้านแฟนสาวที่มีภูมิประเทศเป็นป่าเขา คิดว่าตำรวจไม่สามารถตามเจอได้ แต่ระหว่างเจ้าตัวกำลังตระเตรียมงานใกล้ฤกษ์วันพิธีสู่ขอนั้น ตำรวจก็ตามมาจับกุมได้ ยอมรับว่าเพิ่งก่อเหตุลักษณะนี้เป็นเพียงครั้งแรก
อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากทางตำรวจทำการตรวจสอบประวัติพบว่าคนร้ายรายนี้เคยต้องโทษคดี ลักรถจักรยานยนต์ จำคุกเป็นเวลา 2 ปี มาก่อนหน้านี้ จึงต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
