สศค.คงเป้าจีดีพีปีนี้ 4.5% คาดส่งออกโต 8%

นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า สศค.คงการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ไว้ที่ 4.5% (มีช่วงคาดการณ์ที่ 4.3 – 4.7%) ดีขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.9% ส่วนเป้าหมายการส่งออกคาดว่าปีนี้โต 8% ลดลงจากช่วงคาดการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่คาดว่าจะโต 9.7% ส่วนเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่ 32.25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่ากว่าปี 2560 สำหรับดอกเบี้ยนโยบายคาดว่าปีนี้คงอยู่ในระดับ 1.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 71.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ 70.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

“ในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยโตได้ 4.8% โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะสามารถเติบโตได้ในระดับที่สศค.มองไว้ ขณะนี้สศค.รับการบ้านจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีให้ช่วยหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว และการบริโภคของผู้มีรายได้น้อย โดยคงไม่ใช่เรื่องช้อปช่วยชาติ เพราะหากทำบ่อยๆ จะเป็นเหมือนการเสพติดนโยบายนี้”นายวโรทัย กล่าว

นายวโรทัยกล่าวว่า เศรษฐกิจในปีนี้ได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งด้านการบริโภคและการลงทุนที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการจ้างงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตรกรรมที่เริ่มขยายตัวดีขึ้นตามปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังช่วยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐจากปีก่อนหน้ายังเป็นแรงสนับสนุนให้การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้าอีกด้วยสำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามายังประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะยังคงสนับสนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวขยายตัวดีตามไปด้วย

นายวโรทัยกล่าวว่า สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2561 จะอยู่ที่ 1.2% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.0 – 1.4%) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ

Advertisement

นายวโรทัยกล่าวว่า ทั้งนี้มีสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวลง และนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐรวมถึงการตอบโต้จากประเทศต่างๆ คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าชะลอลงเล็กน้อย นอกจากนี้ต้องติดตามกรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่าจะรุนแรงขึ้นหรือไม่ รวมทั้งต้องติดตามความผันผวนของตลาดการเงินโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image