มีรายงานข่าวช่วงกลางดึกวันที่ 2 พฤศจิกายน มีรายงานแจ้งว่าพบซากกระทิงตายอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ท้องที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวจึงประสานสอบถามข้อมูลไปยัง นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี ได้ให้ข้อมูลว่า เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 คลองน้ำมัน ได้รับแจ้งว่าพบซากกระทิงอยู่ภายในป่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน บริเวณท้ายป่าบ้านมาบกราด ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เหนือเขื่อนลำแชะ จึงมอบหมายให้นายชัยศิริ ชุมแสง ปลัดอำเภอครบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมนายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน)และกำลัง รวมถึง เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอครบุรี ผู้ตรวจพิสูจน์ซาก ,ตำรวจ สภ.ครบุรีและ กำลังทหาร ชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยเคลื่อนที่เร็วกองทัพภาคที่ 2
ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ซากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอครบุรี ลงความเห็นว่า เป็นซากกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม เหลือเพียงโครงกระดูก นอนตายมาแล้วประมาณ 3 เดือน ไม่สามารถตรวจหาร่องรอยการเสียชีวิตเนื่องจาก เนื้อหนังหรือส่วนต่างๆ ที่เป็นชิ้นเนื้อได้ถูกย่อยสลายเหลือแต่ซากโครงกระดูก จึงนำซากโครงกระดูกของกระทิง ทำการกลบฝังในพื้นที่ พร้อมใส่ยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาด และได้ร่วมกันจัดทำบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป
นายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสอบสวนรายละเอียดของการตายของกระทิงตัวดังกล่าวได้ เพราะซากดังกล่าวถูกย่อยสลายอวัยวะไปหมดแล้ว ซึ่งมีความเป็นไปได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย ติดเชื้อ ถูกสัตว์นักล่ากัดกิน ต่อสู้กันเอง รวมถึงการเสียชีวิตจากน้ำมือมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้มีการออกประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับประชาชนที่อยู่บริเวณแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อให้ช่วยกันสอดส่องดูแลสัตว์ป่าในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว หากพบว่ามีสัตว์ป่าถูกทำร้ายหรือเจ็บป่วยจะมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ และก็ได้ทำการช่วยเหลือสำเร็จไปแล้ว ยังคงมีกรณีที่สัตว์ป่าจะเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุได้บ้างบางครั้ง
