วันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลา แจ้งว่า ชุดเคลื่อนที่เร็วศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา นำโดยนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา และนายณรงค์ชัย นรรัตน์ หัวหน้าหมวดทางหลวงหาดใหญ่ เดินทางลงพื้นที่ริมถนนลพบุรีราเมศวร์ บริเวณบ้านโคกเมา ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ พร้อมร่วมรับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน ที่นำโดย นายอนันต์ เหมมัน กรณีการปิดช่องทางการจราจร จนทำให้ชาวบ้านต้องไปกลับรถเพื่อเข้าบ้านเรือนตัวเองไกลเกือบ 3 กิโลเมตร
นายอนันต์ เหมมัน ตัวแทนชาวบ้าน บ้านโคกเมา ตำบลท่าช้าง อำเภอบางกล่ำ กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนหนักจากการปิดช่องทางการจราจรถนนลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เชื่อมระหว่างอำเภอหาดใหญ่-อำเภอบางกล่ำและ อำเภอเมือง เพื่อซ่อมสะพาน แต่ไม่แจ้งระยะเวลาในการดำเนินการ ทำให้ชาวบ้านที่จะต้องเดินทางเข้า-ออกบ้านเรือนตัวเองต้องขับขี่รถไปยูเทิร์นระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร ต้องเสียค่าใช้จ่าย และระยะเวลามากขึ้น ตลอดจนความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน รวมถึงไฟฟ้าแสงสว่างบนถนนที่ยังมีไม่เพียงพอและผู้ไม่คุ้นชินเส้นทางก็จะต้องขับรถวนไป เนื่องจากไม่มีป้ายบอกทาง จึงร้องเรียนเพื่อขอให้เปิดช่องทางสัญจรในบางจุดเพื่อความสะดวก
โดยได้มีการตรวจสอบพื้นที่ พร้อมหาแนวทาง ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่ง นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สำหรับการปิดช่องทางการจราจรบริเวณดังกล่าวนั้น เนื่องจากสะพานข้ามถนนลพบุรีราเมศวร์ เกิดทรุดตัว และไม่ปลอดภัยในการใช้สัญจร ซึ่งในการปิดการใช้สะพาน เพื่อรอการซ่อมแซม ส่งผลต่อการกลับรถของพี่น้องประชาชนที่จะเข้าบ้านโคกเมา และหมู่บ้านอื่น ๆ ในตำบลท่าช้าง โดยจะต้องใช้จุดกลับรถซึ่งห่างออกไปร่วม 2.5 กิโลเมตร ไปกลับร่วม 5 กิโลเมตร และคาดว่ายังจะต้องปิดช่องทางดังกล่าวอีกนาน เมื่อชาวบ้านมีข้อร้องเรียน จึงจะเร่งแก้ไข เบื้องต้นจะเปิดจุดกลับรถ 1 ช่องทางจราจรบริเวณจุดเดิม เพื่อให้สามารถเลี้ยวเข้าในพื้นที่ชุมชนของตำบลท่าช้างได้สะดวกมากขึ้น และติดตั้งป้ายบอกทางการใช้จุดกลับรถดังกล่าว คาดว่าจะดำเนินการเปิดจุดกลับรถได้ใน 1-2 วัน ซึ่งทางหมวดทางหลวงหาดใหญ่จะต้องประเมินและติดตามผลที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในการสัญจรอย่างใกล้ชิด
