เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. คืนที่ผ่านมา พ.ต.ต.วสันต์ กันเกตุ สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตใต้รถแท็กซี่สาธารณะ ริมถนนภายในซอยประชาชื่น 4 แยก 1-4 แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.ต.ชัยวิชญ์ สุทำเลา สว.สส.สน.เตาปูน ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนภายในซอยดังกล่าว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถแท็กซี่โตโยต้า โคโรล่านีโม่ สีชมพู ทะเบียนป้ายเหลือง ทย 5563 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของสหกรณ์แท็กซี่ไทยจำกัด จอดอยู่ริมถนนในสภาพไม่ได้ใช้งานมานาน มีฝุ่นเกาะและยางรถแตก พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายณัฐวัฒน์ เพียรสกุล หรือโบ้ตอายุ 27 ปี อาจารย์สอนพิเศษคณิตศาสตร์มัธยม 3 ย่านฝั่งธนสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนสั้น กางเกงสแลกสีดำขายาว ไม่สวมรองเท้า สภาพศพนอนหงายในท่าขัดสมาธิ ที่ศรีษะมีถุงขยะสีดำคลุมอยู่ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 วัน เมื่อเปิดถุงออกมาตรวจสอบบาดแผลพบศีรษะด้านขวาเป็นรูประมาณ 5 มิลลิเมตร ก่อนนำร่างส่งชันสูตรต่อที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบถุงดำภายในพบกระเป๋าสะพายหลังมีเสื้อกันหนาวสีดำ หนังสือติวคณิตศาสตร์ ม.3 และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวน น.ส.เพลินจิต ปาวะพรม อายุ 34 ปี คนงานแคมป์พักคนงานก่อสร้าง เปิดเผยว่า ตนมาพักอาศัยอยู่ที่แคมป์พักคนงานก่อสร้างติดกับรถแท็กซี่ที่พบศพ โดยก่อนหน้านี้เห็นรถถูกจอดทิ้งไว้ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการล้อมรั้วกั้นเป็นที่พักคนงานก่อสร้าง วันนี้ตนได้เดินผ่านรถและสังเกตเห็นว่ามีคนนอนอยู่ใต้รถแท็กซี่ จึงเรียกผู้ตายไปแต่ไม่มีการตอบกลับและอยู่ในลักษณะนอนแน่นิ่งจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบทันที
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพอยู่นั้นได้มีผู้หญิงเดินปรี่เข้ามากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยระบุว่าชื่อ น.ส.ศศิกานต์ คันทัพไทย อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นแฟนกับนายณัฐวัฒน์ เพียรสกุล อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิต โดยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เจอกับผู้ตายเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพูดคุยกับผู้ตายโดยบอกกับตนว่าจะออกไปติวหนังสือก่อนจะหายตัวไปขาดการติดต่อและทราบว่าผู้ตายได้ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดสีแดง (ไม่ทราบทะเบียน) ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายนั้นน่าจะเกิดจากนายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล แฟนเก่า ซึ่งเคยบอกกับตนว่าหากนอกใจก็จะตามฆ่าแฟนใหม่ นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าทางแฟนเก่าได้ออกรถยนต์ยี่ห้อและสีเดียวกันอีกด้วย
พล.ต.ต.เอกชัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากประเด็นไหน หลังจากนี้จะทำการสอบสวนพยานแวดล้อมทั้งหมด อาทิ พยานที่เห็นเหตุการณ์ ญาติผู้เสียชีวิตและแฟนของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมายืนยันผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุของการตายที่แท้จริง รวมถึงการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
