นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือแอลแอนด์อี ผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างอย่างครบวงจร ให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8% เป็นผลจากงานโครงการได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% งานค้าส่ง/ค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5% และงานส่งออกเพิ่มขึ้น 55%
การเพิ่มขึ้นของงานโครงการเป็นผลจากการก่อสร้าง และปรับปรุงศูนย์การค้าและร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสินค้าที่ได้ติดตั้งในงาน turnkey จำนวนหนึ่งต้องเลื่อนส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในไตรมาสต่อไปก็ตาม ส่วนการเพิ่มขึ้นของงานขายส่ง/ขายปลีกเป็นผลจากการขายในร้าน Lighting Solution Center ของบริษัทฯ ที่ถนนรัชดาภิเษก และที่ถนนราชพฤกษ์ได้ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่งานส่งออกก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข่นกัน เป็นผลจากการขยายตัวของตลาดในประเทศมาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา
สำหรับกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2561 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 35.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 9.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36% เป็นผลจากกำไรเบื้องต้นรวมรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากรายได้จากการขายและให้บริการที่สูงขึ้นและอัตรากำไรเบื้องต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 32.8% ในปี 2560 เป็น 35.1% ในปี 2561 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 19.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% เป็นผลจากค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามผลการดำเนินงานได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่สูงขึ้น รวมทั้งผลจากการปรับเงินเดือนประจำปี และภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท เนื่องจากกำไรที่เพิ่มขึ้น
นายปกรณ์ กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มอาเซียน โดยในกลางเดือนธันวาคมปีนี้ บริษัทมีแผนจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม รวมถึงเปิดตัว Lighting Application Center เพื่อนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างใหม่ ๆ รวมถึงเป็นแหล่งให้ความรู้ด้านไฟฟ้าแสงสว่างแก่ผู้บริโภค เพื่อให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมีประโยชน์สูงสุด
“บริษัทให้ความสำคัญกับนวัตกรรมด้านไฟฟ้าและแสงสว่างใหม่ๆ และทำ R&D มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีแผนจัดตั้งบริษัทย่อยและ Lighting Application Center ที่ประเทศเวียดนาม เนื่องจากมองเห็นกำลังซื้อที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตของตลาดในอนาคต เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดตัว Lighting Application Center ในกลางเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นศูนย์บริการแห่งที่ 2 ต่อจากที่ประเทศเมียนมาร์” นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2561 บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้จากการขายและให้บริการเติบโต 20% จากการขยายงานโครงการของภาครัฐบาลและเอกชนที่คาดว่าจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้เป็นรายได้อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งกว่า 80% รับรู้รายได้ในปีนี้
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
