เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รรท.ผกก.สนับสนุน บก.ป. พ.ต.ต.กันต์ทวี อดุลยาศักดิ์ รรท.สว.กก.สนับสนุน บก.ป. และนายกฤษกมล นันทะวงษ์ หัวหน้าหมวดอบรมและทดสอบ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5 และนายชัยวัฒน์ มากวงศ์ หัวหน้าหมวดใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5 กรมการขนส่งทางบก ร่วมกันแถลงจับกุม นายพุฒิพงศ์ ตรีเพ็ชรศิริกุล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 249 ถ.จันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2509/2561 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางนาฬิกาหรูยี่ห้อโรเล็กซ์ 6 เรือน มูลค่ารวม 2 ล้านบาท ธนบัตรเงินสด 7 แสนบาท และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการกระทำผิดอีกหลายรายการ โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าตึกอาคารพานิชย์ เลขที่ 2,4,8 ถ.จันทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้รับแจ้งเบาะแสผ่านทางเพจเฟซบุ๊กกองปราบปราม ว่ามีผู้โพสต์เฟซบุ๊กรับจ้างทำใบขับขี่โดยไม่ต้องไปทำที่สำนักงานขนส่งฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่าตั้งแต่ช่วงประมาณปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคน โพสต์ภาพและข้อความรับจ้างทำใบขับขี่ผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กแฟนเพจต่างๆ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นตามแต่ความยากง่ายของแต่ละคน ซึ่งหากมีผู้สนใจก็จะให้ติดต่อผ่านเข้ามาทางแอพพลิเคชั่นไลน์ตามไอดีจำนวน 5 ไอดี ที่ลงไว้ให้ในเฟซบุ๊ก จากนั้นคนร้ายจะทำการส่งรายละเอียดขั้นตอนเกี่ยวกับการทำใบขับขี่ให้กับผู้เสียหาย พร้อมทั้งหลอกให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลส่วนตัว เช่น ภาพถ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ก่อนจะหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำในเบื้องต้นจำนวน 1,000 บาท แล้วตามด้วยค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆในภายหลัง อาทิ ค่าบัตรส่วนที่จะต้องจ่ายเพิ่ม ค่าขนส่งและอื่นๆอีกมากมาย ที่ผ่านมามีบางรายถูกหลอกเสียเงินกว่า 20,000 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดรับบัตรใบขับขี่กลับไม่ได้รับใบขับขี่จริงอีกทั้งคนร้ายยังได้ทำการบล็อกไลน์และพยายามปิดช่องทางการติดต่อกับผู้เสียหาย
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า หากมีผู้เสียหายรายใดพยายามจะเรียกร้องขอเงินคืนคนร้ายก็จะทำการข่มขู่ว่าผู้เสียหายเป็นผู้กระทำผิดทางกฎหมายด้วยจากกรณีดังกล่าวด้วย จนทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิดกับคนร้าย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการแกะรอยเส้นทางการเงินของคนร้ายจนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายพุฒิพงศ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งสืบทราบว่านายพุฒิพงศ์ นั้นพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านสาทรจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมพร้อมกับเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักนายพุฒิพงศ์ จนพบของกลางเป็นทรัพย์สินมีค่า บัญชีธนาคารต่างๆจำนวน 18 บัญชี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการกระทำผิดหลายรายการ อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหารายนี้ยังพบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหามากกว่า 4,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับ 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และเชื่อว่าที่ผ่านมาน่าจะมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมากกว่า 2,000 ราย นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่านายพุฒิพงศ์ผู้ต้องหารายนี้ยังมีพฤติกรรมล้วงข้อมูลส่วนบุคคลและทำการแฮ็กเฟซบุ๊กของบุคคลอื่นเพื่อนำไปใช้ในการกระทำความผิดอีกด้วย
จากการสอบสวนนายพุฒิพงศ์ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าได้กระทำผิดดังกล่าวจริง ซึ่งเงินที่ได้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้ซื้อของใช้หรูราคาแพงและใช้เที่ยวเตร่ทั่วไป เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายกฤษกมล หัวหน้าหมวดอบรมและทดสอบ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกไม่เคยมีนโยบายรับทำใบขับขี่ผ่านบุคคลภายนอกโดยที่ตนเองนั้นไม่ต้องไปแสดงตัวที่สำนักงานขนส่ง เพราะขั้นตอนต่างๆในการทำใบขับขี่จะต้องผ่านกระบวนการของขนส่งแต่เพียงเท่านั้น ดังนั้นหากพบเห็นการโฆษณาเชิญชวนรับจ้างทำใบขับขี่ในลักษณะดังกล่าวขอให้พึงระวังว่ากลุ่มคนเหล่านี้น่าจะเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวหลอกลวงเอาเงิน