พรรคประชาชาติเร่งช่วยเหลือลูกหนี้กยศ.ชายแดนใต้ แนะรัฐเลิกเก็บดอกเบี้ย หนุนเรียนฟรีถึงป.ตรี

แหล่งข่าวจากประชาชาติ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวแทนพรรคชาชาติ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคฯ นายสุพจน์ อาวาส รองโฆษกพรรคพรรคฯ และนายวัชรเดช รูปขจร สมาชิกพรรคฯ และคณะทำงานด้านนโยบาย ได้ร่วมสนทนาและหารือกับตัวแทนลูกหนี้ กยศ.จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง และร่วมกันตั้งกลุ่มสร้างสุข กยศ. เพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ทั้งนี้จากการหารือพบว่า ลูกหนี้ กยศ. จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางมาในครั้งนี้ แต่ละรายที่มีสถานะทางคดีต่างกัน ประกอบด้วย 1) ลูกหนี้รายที่ กยศ. ฟ้องผู้กู้ยืมและผู้กู้ยืมได้ปฏิเสธไม่ประนีประนอมชั้นศาล 2) ลูกหนี้รายที่ได้ยินยอมประนอมชั้นศาลและศาลพิพากษาคดีตามยอม และ3) ลูกหนี้รายที่ศาลได้พิพากษาแล้วและอยู่ในชั้นบังคับคดีที่ต้องยึดทรัพย์ โดยผลจากการพบปะพูดคุยระหว่างลูกหนี้ กับ กยศ. ในกรณีแรกที่ศาลยังไม่ตัดสิน กยศ. ได้บันทึกจะถอนฟ้องให้และนำไปสู่ปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนที่เหลือศาลได้ตัดสินคดีแล้วต้องเป็นไปตามคำพิพากษา จึงน่าสนใจว่า ในทุกคดีลูกหนี้ได้กู้เงินต้นจาก กยศ. ไปประมาณ 2.5 แสนบาทเท่านั้น แต่กลับถูกฟ้องให้ใช้หนี้สูงถึงจำนวน 6 แสนบาทเศษ เพราะเป็นเบี้ยปรับและดอกเบี้ยถึงเกือบ 4แสนบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทุกวันนี้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่า 50% เป็นหนี้ กยศ. ทั้งๆ ที่การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ระบุว่ารัฐภาคี รัฐภาคีจะต้องนำการการศึกษาแบบให้เปล่ามาใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนถึงขั้นอุดมศึกษาสำหรับพรรคประชาชาติ มีอุดมการณ์ว่าการพัฒนาคนและการศึกษาคือสิ่งสำคัญที่สุด เราอยากผลักดันให้มีการเรียนฟรีที่มีคุณภาพจนจบปริญญาตรี กรณี กยศ. ควรยกเลิกและแก้ไขกฎหมายไม่ให้มีดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ รวมถึงปรับปรุงการให้ทุนการศึกษาที่ยึดความสามารถกับความประสงค์ของผู้เรียน ส่งเสริมการศึกษาที่หลากหลายสาขาวิชา สามารถเรียนได้ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงกระจายอำนาจในการให้ทุนการศึกษาไปยังสถานศึกษา หรือองค์กรชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า กรณีความเดือดร้อนเฉพาะหน้าที่ลูกหนี้ กยศ. กำลังเผชิญ “ประชาชาติ” ได้พยายามทุกหนทางในการช่วยเหลือประสานงานและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เบื้องต้นได้มอบหมายนายสุพจน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ SME Bank ได้ตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลขับเคลื่อนการช่วยเหลือและเสนอเป็นนโยบายที่เหมาะสมต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image