ร้อง’บิ๊กตู่’ปมหักหัวคิวเงินคนพิการกาฬสินธุ์ไม่คืบ ส่อมวยล้ม!

ตัวแทนผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้องทุกข์กับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ ต่อสายตรงขอความช่วยเหลือจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สางปัญหาร้องเรียนถูกหักหัวคิวเงินค่าจ้างตามมาตรา 35 ระบุพบความผิดชัดเจน แต่การคณะกรรมการตรวจสอบกลับนิ่งเงียบ ไม่คืบหน้า หวั่นส่อเป็นมวยล้มต้มคนดู

จากกรณีผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนเรื่องเงินค่าแรงผู้ดูแลคนพิการ โครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละ 1 แสนบาทต่อปี หรือเดือนละเกือบหมื่นบาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์ตรวจสอบ ขณะที่นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กำกับดูแล ต่อมานายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เดินทางมาติดตามผลการตรวจสอบจากทาง จ.กาฬสินธุ์ และนางฐานิดา อนุอัน ผู้ร้องเรียนหมายเลข 1 เรียกร้องคนพิการออกมาทวงสิทธิ์

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน คสช. กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ชั้น 3 นางฐานิดา อนุอัน อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 24 บ้านเสริมชัยศรี หมู่ 1 ต.นิคม อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ร้องเรียนหมายเลข 1 พร้อมด้วยนางปุนิกา เกริกชัยสกุล อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 77/1 ถนนหน้าเรือนจำ ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ นางอรษา วงศา อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 50 หมู่ 11 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ อดีตเหรัญญิกชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนผู้ปกครองคนพิการ ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 เดินทางเข้าพบ พันตรีพีธ์นิธิ ประสมเพชรหิรัญ หัวหน้าฝ่ายข่าว บก.ควบคุม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อร้องทุกข์ และฝากความหวังครั้งสุดท้ายไว้กับทหาร ให้ส่งต่อตรงถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหา ว่าเกิดจากการกระทำที่น่าสงสัยส่อทุจริตเงินค่าจ้าง เหตุเจ้าหน้าที่รัฐให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเงินคนพิการดังกล่าว

นางฐานิดา กล่าวว่า หลังออกมาร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 61 ถึงวันนี้ มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 ส่วน คือภายใน จ.กาฬสินธุ์ และส่วนกลาง ซึ่งนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น ทราบว่าได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) กาฬสินธุ์ เป็นประธานกรรมการ ขณะที่ตนและตัวแทนผู้ปกครองคนพิการ ได้แจ้งความร้องทุกข์ ประเด็นถูกยักยอกเงินจ้างเหมาบริการ บางรายถูกข่มขู่ ตามขอทวงเงิน ทั้งนี้ ได้มอบหลักฐานแจ้งความให้ประธานเครือข่ายฯ รวบรวมดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ในขณะที่นายปรีดาฯ ประธานเครือข่ายฯ ได้รวบรวมหลักฐาน ร้องเรียนต่อองค์กรตรวจสอบ ทั้ง ปปง., ปปช., ปปท., สตง., คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์มนุษยชน และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนวานนี้ เข้าพบเพื่อรายงานปัญหาต่อปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตามคำสั่งของ รัฐมนตรี พม.

Advertisement

“ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 นายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเรือข่ายฯ และคณะได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น และร้องขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ เนื่องจากพบพิรุธความไม่เป็นกลางของคณะกรรมการ เช่น มีความพยายามที่จะโยนความผิดมาให้ตน และมีพฤติกรรมช่วยเหลือผู้ที่ถูกตรวจสอบ ซึ่งทราบในภายหลังว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวต่อกัน ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผู้ร้องเรียนที่ถูกละเมิดสิทธิ์ จึงขอให้ยกเลิกคณะกรรมการชุดเดิมและเร่งรัดให้คณะกรรมการชุดใหม่ ดำเนินการตรวจสอบในทันที โดยคณะกรรมการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในตอนนั้น ได้รับรองว่าภายในเวลา 10 วัน จะแจ้งผลการตรวจสอบ แต่ผ่านมาถึงวันนี้กว่า 13 วัน ยังไม่มีความชัดเจนคืบหน้าแต่อย่างใด ผู้ปกครองทุกคนจึงหวั่นว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดู” นางฐานิดากล่าว

นางอรษา วงศา อดีตเหรัญญิกชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการบริหารของชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ คลุมเคลือมาก มีเงินกองทุนต่างๆเข้าชมรมตลอด รวมทั้งเงินจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 ซึ่งเป็นเงินจากบริษัท ไทยเอ็น โอเค จำกัด ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการและผู้ปกครองให้ดีขึ้น มีโควต้าปีละ 10 ราย ทั้งนี้ ทางประธานชมรมฯ ได้ให้ผู้ได้รับสิทธิ์หรือผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนพิการไปเปิดบัญชี จากนั้นขอเก็บสมุดบัญชีเงินฝากกับบัตรเอทีเอ็มของผู้ปกครองฯไว้ โดยผู้รับสิทธิ์ ไม่รู้รายละเอียดและเงื่อนไขของสัญญาจ้างเลย เพราะประธานชมรมไม่เคยชี้แจง ได้รับค่าจ้างคนละ 2,000 – 4,500 บาทต่อเดือนเท่านั้น

“หลังจากนางฐานิดาออกมาร้องเรียน จึงได้รู้ความจริงว่าสัญญานั้นกำหนดระยะเวลา 1 ปี บริษัทดังกล่าว จัดค่าจ้างให้รายละ 9,125 บาทต่อเดือน หรือปีละ 109,500 บาท ตนกับผู้ได้รับสิทธิ์ จึงได้ออกมาร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ และแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถูกประธานชมรมฯ ยักยอกเงินค่าจ้าง ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพฤติการณ์และเส้นทางการเงิน ที่ประธานชมรมหักไว้ด้วย” นางอรษากล่าว

ขณะที่นางปุนิกา เกริกชัยสกุล กล่าวว่า หลังมีเรื่องร้องเรียน สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ได้สั่งยกเลิกใบอนุญาตชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์แล้ว ซึ่งให้เหตุผลว่ากระทำผิดหลักการ เกิดความเสื่อมเสียต่อองค์กร ความผิดชัดเจนตั้งแต่เก็บสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม เอกสารที่ทำขึ้นภายหลัง รับรองโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงาน ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสาร หลอกลวงประชาชน แต่การวินิจฉัยข้อร้องเรียนของคณะกรรมการที่ จ.กาฬสินธุ์ยังนิ่งเงียบ พวกเราหวั่นกลัวการร้องเรียนจะไม่เป็นผล เหมือนมวยล้มต้มคนดู จึงได้มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ส่งต่อความเดือดร้อนทุกข์ใจไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหา ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราและคนพิการ ที่รอคอยการช่วยเหลือในขณะนี้

ด้าน พันตรีพีธ์นิธิ ประสมเพชรหิรัญ หัวหน้าฝ่ายข่าว บก.ควบคุม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ข้อร้องเรียนดังกล่าว ถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน หลังได้รับทราบปัญหาและหนังสือร้องทุกข์ จะได้รีบดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเบื้องต้นจะได้ทำหนังสือติดตามผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากคณะกรรมการตรวจสอบฯ ขณะเดียวกันก็จะได้ทำรายงานถึงผู้บังคับบัญชาตามสายงาน เพื่อคลี่คลายปัญหา และคืนความสุขให้ประชาชน โดยเฉพาะต้องให้ความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และปราบปรามปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานภาครัฐ ตามนโยบายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image