กทพ. เตรียมเปิดประมูลทางพิเศษพระราม3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกทม.ด้านตะวันตก ธ.ค.นี้

นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ระยะทางกว่า 18.7 กิโลเมตร วงเงิน 31,244 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสามารถระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(ทีเอฟเอฟ) ได้แล้ว ว่า กทพ.อยู่ระหว่างการจัดทำเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) คาดว่าจะแจ้งรายละเอียดการประมูลภายในเดือนพฤศจิกายน และประกาศทีโออาร์ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และตั้งเป้าเปิดประมูลเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าประกาศผลผู้ชนะเดือนมีนาคม 2562 และเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม โดยใช้เวลาก่อสร้างรวม 39 เดือน คาดเปิดให้บริการเดือนสิงหาคม 2565

นายสุชาติกล่าวว่า โครงการแบ่งออกเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วยงานโยธา 4 สัญญา สัญญาละ 7,000-8,000 ล้านบาท และงานระบบ 1 สัญญา วงเงินกว่า 900 ล้านบาท เบื้องต้นต้องมีการเวนคืนที่ดิน 6-7 ไร่ ใช้เงิน 807 ล้านบาท บางส่วนต้องขอใช้พื้นที่เกาะกลางของกรมทางหลวง ขณะนี้ได้หารือรายละเอียดแล้วคาดว่าจะลงนามในบันทึกข้อตกลง เพื่อขอใช้พื้นที่เร็วๆ นี้

นายสุชาติกล่าวว่า เร็วๆ นี้ กทพ.จะเสนอเรื่องอัตราการจ่ายโบนัสพนักงานประจำปี 2561 ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาเห็นชอบ หลังจากนั้นจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาหลักการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งครั้งนี้การทางพิเศษฯจะเจรจากับ สคร. เพื่อขอให้ สคร. อย่านำกรณีที่ศาลปกครองสูงมีคำพิพากษาให้การทางพิเศษฯ จ่ายค่าชดเชยแก่บริษัทย่อยของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM วงเงิน 4,000 ล้านบาท มารวมกับการพิจารณาโบนัสพนักงานด้วย

นายสุชาติกล่าวว่า โครงการทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ไม่ใช่การลงทุนของการทางพิเศษฯ และการลงทุนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ก็ทำให้เกิดการแข่งขัน ผลดีต่อประชาชนผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ การทางพิเศษฯ อาจเสนอแนวทางการจ่ายโบนัสให้ สคร. พิจารณาหลายทางเลือก โดยตามขั้นตอน สคร.จะต้องพิจารณาหลักการการจ่ายโบนัสให้เสร็จภายในปี 2561 เพื่อจ่ายโบนัสพนักงานให้ทันสิ้นปีนี้

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดือนกันยายน 2561 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพากษาให้การทางพิเศษฯ จ่ายค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) ผู้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารโครงการทางพิเศษ (ทางด่วนอุดรรัถยา) เส้นทางบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BEM จำนวน 1,790 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยเป็นวงเงิน 4,000 ล้านบาท ภายใน 90 วันนับแต่คดีสิ้นสุด เนื่องจากมีการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รัสติ ขึ้นมาแข่งขัน ทำให้ปริมาณการจราจรและรายได้ค่าผ่านทางของทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ดของ NECL ลดลง การจ่ายค่าชดเชยดังกล่าวอาจส่งผลต่อโบนัสของพนักงานการทางพิเศษฯ ประจำปี 2561 ลดลง จากปกติได้รับโบนัสเฉลี่ย 5 เดือน ดังนั้นผู้บริหารและบอร์ดการทางพิเศษฯ จึงต้องเร่งหารือในประเด็น ดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image