‘ชโย กรุ๊ป’ โชว์กำไร Q3/61 โต 112% โกย 25 ล้านบาท มั่นใจ Q4/61 กำไรโตต่อเนื่อง

lineid : sweetlifes

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจเจรจาติดตามและเร่งรัดหนี้สิน และบริหารสินทรัพย์จากการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงิน และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 66.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.86% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3 ปี 2561 อยู่ที่ 25.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.67 ล้านบาท หรือ 112% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ 62.7% และอัตรากำไรสุทธิที่ 39.2%

ในขณะที่รายได้รวมงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน) ของปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 186.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 64.38 ล้านบาท เกินเป้าที่ตั้งไว้ ที่จะกำไรโตเกิน 10% ของปีก่อน (ปี 2560 บริษัทมีกำไรทั้งสิ้น 58.24 ล้านบาท) และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 34.5%

นายสุขสันต์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้รายได้รวมและกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เกิดจากการที่บริษัทสามารถบริหารและเก็บเงินได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทซื้อมาในปี 2557 นั้นตัดต้นทุนเกือบครบ 5 ปีแล้ว

“สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 บริษัทเชื่อมั่นว่า จะมีการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ บริษัท อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อหนี้จากสถาบันการเงินจำนวน 5 – 6 แห่ง รวมมูลค่าหนี้ประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นปีแน่นอน ซึ่งจะทำให้ตลอดปี 2561 นี้ บริษัทจะเข้าซื้อหนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือน กันยายน 2561 บริษัทได้ดำเนินการซื้อหนี้แล้ว 9,207 ล้านบาท ขณะที่มูลหนี้คงค้าง ณ ไตรมาสที่ 3/2561 อยู่ที่ 38,501 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกันประมาณ 35,780 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกันประมาณ 2,721 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้ปี 2561 มั่นใจว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%” นายสุขสันต์ กล่าว

Advertisement

นายสุขสันต์ กล่าวว่า แผนธุรกิจในปี 2562 บริษัทเน้นกลยุทธ์เชิงรุกในทุกธุรกิจ และยังคงเน้นในการซื้อหนี้มาบริหารเป็นหลักเช่นเดิม โดยในปี 2562 บริษัทจะมีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วยธุรกิจสินเชื่อบุคคล สินเชื่อนาโน และพิโก ไฟแนนซ์ ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทย่อย ชโย แคปปิคอล และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัทย่อย ชโย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ เซอร์วิส

“ในปี 2562 บริษัทวางแผนการลงทุนและการจัดหาเงินทุนไว้ประมาณ 1,000 – 1,200 ล้านบาท โดยใช้สำหรับซื้อหนี้เพิ่มประมาณ 800 – 1,000 ล้านบาท และสำหรับธุรกิจปล่อยกู้ไว้ประมาณ 200 – 400 ล้านบาท” นายสุขสันต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image