นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี สู่ความยั่งยืนแบบบูรณาการว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนยังหดตัวต่อเนื่องเกิน 20% ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เนื่องจากมาตรการฟรีวีซ่า 21 ประเทศที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากวางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวใหม่ เปลี่ยนช่วงเวลาในการเดินทางเข้าไทยเป็นเดือนธันวาคมแทน เพื่อใช้สิทธิฟรีวีซ่า ทำให้สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนในเดือนนี้ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ยังคาดหวังว่าเดือนธันวาคมนี้ นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวมากขึ้น ฟื้นตัวมากกว่าเดิม แต่ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่าจะกลับมามากน้อยหรือเป็นปกติได้อย่างไร เพราะเป็นเรื่องของอนาคต เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยเกี่ยวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจโลก ที่เหตุการณ์สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่งผลต่อค่าเงินหยวนและปัจจัยกระทบอื่นๆ ทำให้การหายไปของนักท่องเที่ยวจีน อาจมาจากหลายสาเหตุ
ส่วนของการจะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอื่นๆ ออกมาอีกหรือไม่ นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่ายังไม่จำเป็น เพราะเป็นเรื่องของกลไกการตลาดที่มีปัจจัยกระทบจากตลาดโลกจำนวนมาก และมาตรการของภาครัฐมีผลน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลกระทบในตลาดที่ค่อนข้างหนักมากในขณะนี้ “เหมือนกับภาคการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศของไทย ถ้าเราบอกว่าเราจะลดราคาสินค้า แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้น ลดยังไงเราก็ขายไม่ออก”
นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ส่วนการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกมาหารือร่วมกัน ช่วยให้ผู้ประกอบและภาคการบริการด้านการท่องเที่ยวเข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาเองแบบครอบครัว (เอฟไอที) เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มทัวร์และกลุ่มเอฟไอที เข้าไปยังชุมชนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีการเปิดโอกาสให้ตัวแทนในภูมิภาคต่างๆ บอกกล่าวถึงสิ่งที่ภาครัฐได้ดำเนินการไปแล้ว และในอนาคตต้องการทำอย่างไรต่อไป แล้วมีปัญหาหรือมีอุปสรรคใดที่ต้องการความช่วยเหลือบ้าง โดยภาครัฐจะสรุปผลทั้งหมด และจะบริหารจัดการในด้านต่างๆ ต่อไป
