‘บิ๊กโจ๊ก’ ลุยจับคดีฉ้อโกง 200 ล้าน เสียหายกว่าพันราย

จับกุมผู้ต้องหา ฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงให้สมัครเป็นสมาชิกมูลนิธิโดยให้ผลตอบแทนในราคาสูง ผู้เสียหายกว่า 1,200 คน ความเสียหายเบื้องต้นกว่า 200 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กันยายน มีผู้เสียหายจำนวนมากได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สว่าง จ.สกลนคร ให้ดำเนินคดีกับนางฐิตินันท์ ดอนเงิน พร้อมพวกจำนวน 9 คน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยกล่าวอ้างว่าผู้ต้องหาจะจัดทำโครงการ “ปิดทองหลังพระ” ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงขึ้น และขอใช้สถานที่บริเวณบ้านผู้เสียหายที่เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เป็นสถานที่จัดประชุมชาวบ้านเพื่อชี้แจงโครงการ พร้อมเชิญชวนชาวบ้านสมัครเข้าเป็นสมาชิก โดยให้ผลตอบแทนสูง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อแล้วสมัครเป็นสมาชิกและร่วมลงทุนตามที่ผู้ต้องหาหลอกลวง รวมผู้เสียหายจำนวน 1,034 คน เป็นเงินประมาณ 21,000,000 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สว่าง เพื่อดำเนินคดีกับนายอนุวัชช์ อัมพวัน กับพวกรวม 2 คน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยการกล่าวอ้างว่า ผู้ต้องหาเป็นประธานบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ และสามารถจัดหาเงินมาช่วยเหลือผู้เสียหายกับพวก ซึ่งเป็นหนี้สินจากการถูกนางฐิตินันท์ ดอนเงิน หลอกลวง และสามารถจัดหาที่ดินทำกินให้ผู้เสียหายกับพวกได้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ แล้วมอบเงินให้ผู้ต้องหาไปเพื่อเป็นค่าดำเนินการ รวมผู้เสียหายจำนวน 131 คน เป็นเงิน 26,000,000 บาท

จากการตรวจสอบข้อมูลของกองบังคับการตำรวจภูธรสกลนครเพิ่มเติม พบว่า กลุ่มผู้ต้องหายังได้หลอกลวงผู้เสียหายโดยอ้างว่าจัดทำโครงการ “ปิดทองหลังพระ” จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ไปร้องทุกข์ดำเนินคดีมาแล้วหลายคดีดังนี้

Advertisement

1.สถานีตำรวจภูธรนิคมน้ำอูน จำนวน 2 คดี มูลค่าความเสียหาย 8,080,000 บาท 2.สถานีตำรวจภูธรภูพาน​ จำนวน 1 คดี มูลค่าความเสียหาย 776,060 บาท 3.สถานีตำรวจภูธรพังโคน​ จำนวน 2 คดี มูลค่าความเสียหาย 491,470 บาท 4.สถานีตำรวจภูธรสว่าง จำนวน 5 คดี มูลค่าความเสียหาย 51,580,000 บาท มูลค่ารวมความเสียหายในพื้นที่ จ.สกลนคร จำนวน 60,927,530 บาท

เนื่องจากเป็นคดีที่มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนและมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ตำรวจภูธรภาค 4 และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.รองผู้อำนวยการ ศปอส.ตร. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เข้าทำการตรวจสอบจนนำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาทั้งสิ้นจำนวน 11 ราย

ต่อมาวันที่ 15 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 9 ราย ดังนี้

1.นางฐิตินันท์ ดอนเงิน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.131/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 2.นายกฤษกร ดอนเงิน​ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.133/2562 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 3.นายชยพล ทองคลองไชย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.134/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 4.นางฐานีนุช สวรรณกำจาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.135/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 5.นายนิพนธ์ งามเถื่อน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.137/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 6.น.ส.นิตยา คำจำปา​ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.138/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 7.นางรัตนพร พิกุลทอง​ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.139/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 8.นายอนุวัชช์ อัมพวัน​ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.140/2561 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 9.นายกฤษฏภาส สุคนธชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ จ.141/2562 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561

ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมอันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกงประชาชน”

ทั้งนี้จะติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่า ตลอดเวลาที่ตนหลอกลวงผู้เสียหาย ได้รับโอนเงินจากผู้เสียหายมาประมาณ 200 ล้านบาท

นอกจากนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังพบว่า นางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก ได้ทำการหลอกลวงว่าจัดทำโครงการ “ปิดทองหลังพระ” ในหลายพื้นที่หลายจังหวัด ได้แก่ จ.อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา เป็นต้น จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ความเสียหายมูลค่าอีกนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ข่มขู่ ทำให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงเกิดความกลัว ไม่กล้าที่จะร้องทุกข์ดำเนินคดี จึงขอประชาสัมพันธ์ประชาชนทั่วไปที่ถูกกลุ่มนางฐิตินันท์ ดอนเงิน กับพวก หลอกลวงให้มาแสดงตัวร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด และร่วมกับสำนักงาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image