“สุวิทย์” ระบุ “พปชร.” เสนอชื่อนายกฯตามกติกา เผย ทาบทาม “บิ๊กตู่” ไว้ในใจ

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ยังไม่มีการหารือ เพราะพลังประชารัฐเพิ่งได้รับการรับรองมาไม่นาน แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องฟังเสียงสมาชิกเป็นสำคัญ เมื่อถามว่า ยังคงยืนยันที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯต่อหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า “โดยส่วนตัวผมชอบ ผมสนับสนุนท่านเต็มที่ แต่ในส่วนของพรรคต้องมีการหารือกัน เราต้องเคารพมติพรรค”

เมื่อถามว่าปกติทุกพรรคจะเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ นายสุวิทย์กล่าวว่า ตามกฎหมายกำหนดให้พรรคสามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯได้ 3 คน เพราะฉะนั้น เราต้องเสนอชื่อหัวหน้าพรรคด้วย ทั้งหมดเป็นกติกาที่เราต้องทำตามครรลองอยู่แล้ว ซึ่งคงจะหารือกันว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯในอนาคต เมื่อถามว่า ได้มีการทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์บ้างหรือยัง นายสุวิทย์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวยังไม่ได้ทาบทาม แต่มีการทาบทามในใจ

เมื่อถามถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีอำนาจในการขยายวันแบ่งเขตเลือกตั้ง นายสุวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องสอบถาม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค แต่ในส่วนของพรรค ทุกอย่างว่าตามกติกา มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น ส่วนที่มองว่าเป็นคำประกาศเพื่อออกมาเอื้อพรรคใดพรรคหนึ่งนั้น เป็นการคาดเดากันมากกว่า กติกามาแบบใดก็ต้องไปแบบนั้น เมื่อถามถึงกรณีที่มีพรรคเล็กๆรวมตัวกันเพื่อขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป นายสุวิทย์ กล่าวว่า ก็เป็นความคิดของพรรคเล็กๆ แต่ตนคิดว่ามันควรจะต้องเดินหน้าต่อไป เมื่อกำหนดไว้วันไหนก็ควรจะเป็นวันนั้น ส่วนที่มองกันว่าที่อยากให้เลื่อน เพราะรอพรรคพลังประชารัฐที่อาจยังเตรียมตัวไม่ทัน นายสุวิทย์ กล่าวว่า ความจริงพรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมมาก ถ้าประกาศว่าพรุ่งนี้จะเลือกตั้งเราก็พร้อมที่จะเลือกตั้งแล้ว

เมื่อถามถึงเรื่องความชัดเจนของ 4 รัฐมนตรีที่จะลาออกจากตำแหน่ง นายสุวิทย์ ระบุว่า หัวหน้าพรรคได้ประกาศไว้แล้วว่าเราออกแน่นอน แต่ตอนนี้เราต้องรับผิดชอบต่องานปัจจุบันของเราที่มีจำนวนมาก เราอยากปิดจ๊อบให้เร็ว อย่างกระทรวงใหม่ที่ทำอยู่ก็อยากให้สมบูรณ์จะได้ตั้งไข่ได้ในรัฐบาลต่อไป อยากปิดจ๊อบเร็วๆ เพราะฉะนั้น อยากให้เข้าใจว่าเมื่อถึงเวลาเราไปแน่ และถ้าไปก็จะไปพร้อมกัน มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน และเรื่องนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเราทั้ง 4 คน ยืนยันไม่เคยคิดที่จะเอาสิ่งเหล่านี้มาสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ เพราะหากเราออกไปตอนนี้ คนใหม่ที่เข้ามาต้องมาเรียนรู้งานใหม่ ก็จะเสียเวลา ยืนยันอีกสักพักก็จะเห็นเร็วๆนี้แน่นอน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image