เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ที่ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย (บอร์ดมวย) ก่อนเปิดเผยว่า ผลสรุปจากการประชุม มีมติ 1.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฉบับที่อนุกรรมการกีฬามวยเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด 2.ให้มีการสอบถามประเด็นเรื่องมวยเด็ก ไปยังกระทรวงแรงงานว่าเข้าข่ายขัดต่ออนุสัญญาว่าด้วยการใช้แรงงานเด็กที่มีอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ 
ส่วนกรณีที่บอร์ดมวยเห็นชอบในสาระหลักของร่าง พ.ร.บ.นี้ คือ ต้องถือว่าการคุ้มครองเด็กสำคัญกว่าการคุ้มครองผลประโยชน์ของคนทำมวยเด็ก บอร์ดเห็นพ้องกับหลักการที่จำแนกว่า เด็กทุกอายุควรได้เรียนและฝึกมวยอย่างถูกต้อง คือ เรียน หรือฝึกการป้องตัว ป้องกันการบาดเจ็บ ป้องกันสมอง ก่อนจะไปถึงระดับที่จะมีการซ้อม ซึ่งจะเริ่มมีโอกาสถูกกระทบกระเทือน
และหากจะมีการแข่งขัน ยังเห็นว่าอายุเฉยๆ ยังไม่เพียงพอจะตอบทุกปัญหา และไม่ควรใช้กติกาเดียวกับผู้ใหญ่ใช้, มีระบบที่เข้มงวดเอาจริง มีเป้าหมายที่จะต้องเลี่ยงการกระทำให้บาดเจ็บ, ไม่ให้มีเป้าหมายสร้างการกระทบกระเทือนต่อคู่แข่ง ซึ่งจะได้ขยายเป้าหมายนี้ไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ปกครอง หัวหน้าค่าย ผู้จัดมวย นายสนาม พี่เลี้ยง ฝึกสอน กรรมการผู้ตัดสิน กรรมการคะแนน หัวหน้าค่าย ผู้ขออนุญาตจัดแข่งขัน รวมทั้งเฮดการ์ดไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูป เพราะแม้ป้องกันการแตกของผิวหนังได้ แต่ไม่อาจป้องกันความกระทบกระเทือนสมองได้
ร่างฉบับกระทรวงกีฬามวยในส่วนที่เกี่ยวกับเด็ก จึงให้ไปมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมในระดับกฎหมายลูกจะได้เพิ่มหรือปรับแก้ง่ายขึ้น เพราะถ้าระบุว่าจะใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในระดับพ.ร.บ.ไปเลย ก็จะขาดความยืดหยุ่นในการปรับตามสภาพของความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์การป้องกันสุขภาพและร่างกายของคน
“3.อีกมติ คือ ให้ผู้บริหาร กกท. และกระทรวงกีฬาสนับสนุนบุคคลและระบบคุ้มครองให้นายทะเบียนและผู้ช่วยนายทะเบียนมวยตามจังหวัดต่างๆ ในการเข้าตรวจสอบ, สอดส่องผู้ขอจัดมวยที่มีเด็กต่ำกว่า 15 ปีเกี่ยวข้อง และให้ทำเรื่องขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่มีกำลังในการช่วยคุ้มครองประกบนายทะเบียนในการทำหน้าที่ในเรื่องเหล่านี้ได้อย่างเพียงพอ
4.เห็นชอบในหลักการเกี่ยวตารางความแตกต่างระหว่างอายุ เพศ ต่อเป้าหมายของการเรียน การฝึกซ้อม การพัฒนาทักษะ และเป้าประสงค์ประเภทต่างๆ ในการแข่งขันกีฬามวย ผมในฐานะ รมต.กีฬาและคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.กีฬามวยขอส่งสัญญาณไปยังผู้จัดมวย ที่คิดจะจัดให้มีการแข่งมวยไทยด้วยเด็กต่ำกว่า 15 ปีทุกราย ว่าให้คิดดีๆ ว่าท่านแม่นในกติกา ข้อระเบียบ ข้อกฎหมายที่ละเอียดพอหรือไม่
ท่านที่จะจัด ขอให้พึงระลึกว่า ความรับผิดชอบเมื่อพลาดพลั้งมา จะมีผลเป็นคดีอาญาที่ไม่อาจเอากีฬามาเป็นข้ออ้างได้เลย เพราะเมื่อไม่ปฏิบัติครบตามกติกาและระเบียบ กฎหมายกีฬาจะไม่คุ้มครองท่านทุกๆ ตำแหน่ง ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ปกครอง ผู้จัดแข่ง นายสนาม ผู้ตัดสิน กรรมการ พี่เลี้ยง หัวหน้าค่าย ผู้ขออนุญาต โปรโมเตอร์ เป็นต้น” นายวีระศักดิ์กล่าว
สำหรับการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ “น้องเล็ก” เพชรมงคล ป.พีณภัทร นักมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมอง ภายหลังขึ้นชกมวย และหลังพ่ายน็อก ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ ยก 3 ที่เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตามโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 
ต่อมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาทบทวน เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ฉบับใหม่ ที่มีสาระสำคัญคือ ห้ามไม่ให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวยและนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร่วมแข่งขัน เว้นแต่ได้รับความชอบจากนายทะเบียน ขณะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ ท่ามกลางคนในวงการกีฬามวยไทยออกมาต่อต้าน เนื่องจากเห็นกฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการทำลายวงการมวยไทย
