นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษาไม่รับแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) ทำให้ต้องกลับมาใช้กระบวนการเจรจากับลูกหนี้จากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหนี้ทุกรายจะต้องรอความชัดเจนและดำเนินการร่วมกัน โดยคณะทำงานของธนาคารอยู่ระหว่างเจรจาลูกหนี้ เพื่อให้ชดใช้หนี้กับธนาคาร 3,800 ล้านบาท ถ้าหากไม่สามารถเจรจาจนได้ข้อยุติกันได้ ทางธนาคารกสิกรไทยในฐานะเจ้าหนี้ คงต้องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อชดใช้หนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาทวงหนี้จากเอิร์ธ เป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะมีเจ้าหนี้หลายราย มูลหนี้มีจำนวนมาก ที่ผ่านมาเจ้าหนี้แต่ละธนาคารก็ต้องดำเนินการเจรจากับเอิร์ธ เพราะถือว่าต่างคนต่างปล่อยกู้ในโครงการเดียวกัน ไม่ได้ร่วมกันปล่อยกู้ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้สำรองหนี้เสียดังกล่าวไว้เต็มจำนวนแล้ว
รายงานข่าวจากธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ เอิร์ธ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าบริษัทเสนอตัวแทนซึ่งธนาคารกรุงไทยเห็นชอบให้เป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู โดยธนาคารกรุงไทย ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ตัวแทนจากธนาคารไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามและธนาคารไม่ได้เสนอ นายนพรัตน์ อาจคงหาญ เป็นประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ ตามที่ เอิร์ธ ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ธนาคารเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือตั๋วแลกเงิน และเจ้าหนี้สถาบันการเงินอื่นๆ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารได้ดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญากับบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูกิจการ โดยธนาคารได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งแต่เดือนก.ย. 60 แล้ว และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าการดำเนินการทางกฎมายดังกล่าวจะนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหนี้สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับ เอิร์ธ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย 12,000 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย 3,800 ล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1,200 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ผู้ถือหุ้นกู้ซึ่งเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ จะเดินทางไปธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ ตึกนานา เพื่อขอให้แสดงความรับผิดชอบ และช่วงเที่ยงจะเดินทางไปที่ดีเอสไอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อติดตามเร่งรัดสำนวนคดีทุจริตของเอิร์ธและกรุงไทย
