เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยถึงกรณีมีคนร้ายปล้นทรัพย์สินนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์และ กระทำอนาจาร นักท่องเที่ยว ชาวเดนมาร์ก ภายในมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเขาลูกช้าง ในเขตพื้นที่ สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี แล้วหลบหนีไป ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ท่าไม้รวก ว่าเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้เสียหาย สัญชาตินิวซีแลนด์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าไม้รวก แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.07 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ห้องพักเลขที่ 219 ภายในมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเขาลูกช้าง หมู่ที่ 9 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้มีคนร้ายเข้าไปในห้องพักของตนและได้ทำการลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป ซึ่งในขณะที่ผู้เสียหายกำลังอาบน้ำข้างห้องพักที่เกิดเหตุได้มีเพื่อนมาบอกว่ามีเรื่องไม่ค่อยดี ต้องไปแจ้งให้ผู้ดูแลสถานที่ทราบ ผู้เสียหายจึงไปดูกระเป๋าแบบคาดเอวของตนเพื่อจะนำติดตัวไปด้วย ปรากฏว่ากระเป๋าได้หายไป ผู้เสียหายจึงไปแจ้งให้ผู้ดูแลสถานที่ทราบ และได้เล่ารายละเอียดให้ฟังโดยเบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้ายไปหลายรายการ มีมูลค่าประมาณ 8,000 บาท
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 19.08 น. คนร้ายคนเดียวกันได้พยายามกระทำอนาจารผู้เสียหายอีกราย สัญชาติเดนมาร์ก ที่บริเวณ ห้องน้ำของสถานที่พัก ซึ่งในขณะนั้น ผู้เสียหายอยู่ในสภาวะตกใจและผลักคนร้ายออกไป ร่วมทั้งรีบวิ่งหนีออกมาและแจ้งให้ผู้ดูแลสถานที่ทราบ ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนจึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ่ายภาพ ทำแผนที่เกิดเหตุ ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบคดี และฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดติดตามเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อีกทั้งพนักงานสอบสวนได้แจ้งเหตุชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาไปยังกองบังคับการกองการต่างประเทศ(บก.ตท.) รวมทั้งสถานเอกอัคราชฑูตที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ตำรวจสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องไปหลายปากแล้ว เพื่อพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุ และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับในข้อหา ลักทรัพย์และกระทำอนาจาร พร้อมแจ้งข้อมูลให้ตำรวจในสังกัด อาทิเช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจทางหลวง และตามพื้นที่ต่างๆ ช่วยตรวจสอบและทำการสกัดจับกลุ่มคนร้ายที่กำลังหลบหนี
“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีเร่งรัดให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อที่จะได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม”รองโฆษกตร.กล่าว
