นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการดูแลราคากระเช้าปีใหม่ให้เหมาะสมและเป็นธรรม ว่า กรมฯได้มีการส่งหนังสือถึงสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และห้างค้าปลีกทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือและกำชับให้เข้มงวดในเรื่องการจัดหาสินค้าและจัดเป็นชุดกระเช้าปีใหม่ โดยต้องคำนึงถึงการหมดอายุของสินค้าต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในแต่ละกระเช้าต้องระบุรายละเอียดของรายการสินค้าว่ามีอะไรบ้าง ปิดแสดงราคาสินค้าและภาชนะบรรจุ พร้อมกันนี้ กรมฯได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้า และกระเช้าของขวัญของชำร่วยในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ผู้ค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้ามีความผิดปรับสูงสุดครั้งละ 10,000 บาท หากขายเกินราคาหรือค้าไม่เป็นธรรม มีโทษทั้งจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับสูงสุดไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
” ผู้บริหารกรมฯจะมีการออกตรวจสอบราคากระเช้าปีใหม่ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ และตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ที่สถานีขนส่งหมอชิต และประชาชนสามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน 1569 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีนี้ กระเช้าปีใหม่ยังเป็นตลาดที่แข่งขันสูง ดังนั้นจะมีราคาให้เลือกที่หลากหลาย อีกทั้งประชาชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย เชื่อว่าอาจไม่มีการร้องเรียนเรื่องซื้อกระเช้าแพงกว่าปกติ ” นายประโยชน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตอบถามห้างค้าปลีกถึงการสั่งซื้อกระเช้าปีใหม่ พบว่า ประชาชนยังจับจ่ายใช้สอยไม่มาก และปีนี้การสั่งซื้อขององค์กรห้างร้านจะช้ากว่าปีก่อน โดยทางห้างประเมินว่ากำลังซื้อน่าจะสูงขึ้นใน 2 สัปดาห์ก่อนปีใหม่ ซึ่งประเมินว่าราคากระเช้าที่ได้รับความนิยมซื้อในปีนี้อยู่ระหว่าง 1,200-1,500 บาท/กระเช้า และคาดว่าจะมีเงินสะพัดใกล้เคียงปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท
