ผลโพลหอการค้าน่าห่วง พบคนไทยกู้หนี้นอกระบบปีเดียวโต18.7%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2561 จากทุกกลุ่มอาชีพ จำนวน 1,203 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า 87.4% เป็นหนี้ โดยจำนวนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.8% โดยมียอดหนี้รวมกว่า 316,623 บาทต่อครัวเรือน โดยแบ่งเป็นหนี้ในระบบ 64.7% และหนี้นอกระบบ 35.3% ซึ่งแบ่งเป็นหนี้เพื่อใช้จ่ายทั่วไป 38.6% หนี้จากจ่ายบัตรเครดิต 30.2% หนี้จากการซื้อบ้าน 28.5% หนี้เพื่อชำระหนี้เก่า 28.4% โดยปัจจัยที่ทำให้ประชาชนเป็นหนี้สูงขึ้นเกิดจาก ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น 17.9% มีการซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 15.9% การผ่อนสินค้ามากเกินไป 15.4% และการมีรายได้ลดลง 14.2% แต่ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลทำให้ประชาชน มีรายได้เพิ่มมากขึ้นและสามารถชำระหนี้ได้ดีขึ้น โดยนโยบายในการดึงหนี้จากนอกระบบเข้าสู่ในระบบด้วยการออกสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยในรูปแบบต่างๆ ทำให้ประชาชนสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ดีขึ้น ซึ่งบางส่วนก่อหนี้ในระบบเพื่อใช้ชำระหนี้เก่า ซึ่งอยู่นอกระบบ ทำให้แรงกดดันของหนี้ครัวเรือนลดลงได้มาก คาดว่าในปัจจุบันหนี้นอกระบบอยู่ที่ 10% โดยประมาณ

นายธนวรรธนกล่าวว่า หากเปรียบเทียบการก่อหนี้ในปีนี้กับปีที่ผ่านมา พบว่ามีการกู้หนี้นอกระบบเพิ่มขึ้น 18.7% จากปีก่อน 1.2% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลง จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง และสงครามการค้าเริ่มมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ แม้ภาพรวมจะมีการฟื้นตัวมากขึ้น แต่เป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ และฟื้นตัวแบบกระจุกตัวเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น โดยสาเหตุของการเป็นหนี้หลักๆ คือ ค่าครองชีพสูงขึ้น ซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น และผ่อนสินค้ามากเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 86.8% เคยประสบปัญหาการขาดผ่อนชำระหรือผิดนัดชำระเงิน เนื่องจากหมุนเงินไม่ทัน เพราะรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย และเชื่อว่าใน 6 เดือน หรืออีก 1 ปีข้างหน้า ยังมีโอกาสที่จะประสบปัญหาการชำระหนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและรายได้ที่ได้รับลดลง

“คาดการณ์ว่าภายใน 1 ปีนับจากนี้ ประชาชนยังมีความต้องการที่จะกู้เงินเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาใช้จ่ายทั่วไป ชำระหนี้เก่า และลงทุนประกอบอาชีพ เนื่องจากมีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจภายในครอบครัว ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลเร่งฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และดูแลค่าครองชีพ โดยควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมทั้งลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ขณะนี้ประชาชนเริ่มกลับเข้าไปเป็นหนี้นอกระบบเพิ่มขึ้นอีกครั้ง” นายธนวรรธน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image