รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการผลักดันเทคโนโลยี 5G ในไทยว่า 5G จะไม่เข้ามาแทนที่ 3G และ 4G ทั้งหมด แต่ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าทั้งด้านของความสามารถในการรองรับข้อมูลและความรวดเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล ทำให้ 5G จะเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญ ได้แก่ 1.เพิ่มความเร็วของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย 2.ขจัดความล่าช้าในการรับส่งข้อมูลที่ต่ำมาก และ 3.เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากพร้อมกันโดยใช้พลังงานต่ำ เนื่องจาก 5G จะสนับสนุนการรองรับงานที่หลากหลาย และการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมหาศาล อาทิ อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) จึงเชื่อว่า 5G จะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงคุณภาพโดยเปลี่ยนแปลงระบบอีโคซิสเต็มโดยผ่านการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาต่างๆ ที่ใช้เป็นกรอบการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
รายงานข่าวระบุว่า สำนักงาน กสทช. คาดว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจาก 5G ใน ประเทศไทยปี 2578 จะอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท โดยภาคอุตสาหกรรมการผลิต การค้าและการเงิน รวมถึงภาคโทรคมนาคมจะได้รับมูลค่าเพิ่มสูงสุด และคาดว่า 1.ในปีแรกๆ จะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเน้นไปที่การลงทุนโครงข่ายและมูลค่าเพิ่มต่ำ เพราะอัตราการตอบรับและการใช้งานจริงยังต่ำอยู่ และ 2.ในปีหลังๆ จะลดการลงทุนเพื่อจ่ายค่าบำรุงรักษาโครงข่ายขณะที่มูลค่าเพิ่มจะขึ้นสู่ขีดสุด สำนักงาน กสทช.คาดว่า เม็ดเงินลงทุนอาจสูงถึง 1.1 แสนล้านบาทในปี 2563 และลดต่ำลงจนถึงเพียง 1 หมื่นล้านบาทในปี 2578 ส่วน มูลค่าเพิ่มนั้น มีทิศทางสวนการลงทุน โดยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 2 พันล้านบาท จนถึง 2.3 ล้านล้านบาท
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
