13ธ.ค.เริ่มลดกระหน่ำสูงสุด80%ทุกห้างดัง พณ.เอาใจผู้มีรายได้น้อยประหยัด1.65หมื่นล. (มีคลิป)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ ตามนโยบายของรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ มาตลอด 4 ปี ตั้งแต่ปี 2557-60 โดยมียอดขายต่อครั้ง30,000-50,000 ล้านบาท และสานต่อในปี 2561 โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับภาคเอกชน จัดมหกรรมลดราคาสินค้า ภายใต้ชื่องาน “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2561–9 มกราคม 2562 รวม 28 วัน ซึ่งในปีนี้ได้มีเอกชนทั้งผู้ผลิตสินค้าและห้างค้าปลีกเข้าร่วมโครงการ 34 ราย เพื่อจัดลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงสุดถึง 80% อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน เครื่องครัว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

“คาดตลอดงานจะมียอดขาย 55,000 ล้านบาท สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เฉลี่ย 30% หรือคิดเป็นเงิน 16,500 ล้านบาท โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อย สามารถซื้อสินค้าในปริมาณมากขึ้นหรือซื้อสินค้าในปริมาณเท่าเดิม แต่ใช้จ่ายเงินลดลงและทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ได้จัดกิจกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคเหนือและภาคกลาง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ในวันที่ 9 – 10 ธันวาคม จ.สิงห์บุรีในวันที่ 18-21 ธันวาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ในวันที่ 24 – 27 ธันวาคม และ จ.สุพรรณบุรีในวันที่ 4–7 มกราคม 2562 และทยอยจัดงานลักษณะเดียวกันต่อไปอีก 15 จังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง 4 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการธงฟ้าประชารัฐ ร่วมกับภาคเอกชน เช่น บริษัท ออลล์ ดิสเคาท์ จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด, บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ส่งเสริมร้านธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ 60,000 แห่ง ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หนึ่งในโมเดลพัฒนาเครือข่ายร้านธงฟ้าประชารัฐ 4.0 คือ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมสภาพคล่องทุนหมุนเวียน โดยบริษัทเอกชนจะทำหน้าที่รับคำสั่งซื้อและจัดส่งให้กับร้านค้าประชารัฐ คาดช่วยลดต้นทุนไม่น้อยกว่า 10% นำร่อง 100 ร้านค้าต้นแบบ ที่นำระบบอินเตอร์เน็ตและ 4G มาพัฒนาระบบบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ โดยธนาคารรัฐ 2 แห่ง จัดวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อปล่อนสินเชื่อให้ร้านค้าดอกเบี้ยต่ำ

Advertisement

สำหรับภาคเอกชน 34 ราย ที่เข้าร่วมงานลดราคาสินค้า ประกอบด้วย สมาคมสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมการค้าส่ง -ปลีกไทย บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคร14 ราย ได้แก่ สหพัฒนพิบูล บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตาสาหกรรม บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ บริษัท เบอลี่ ยุคเกอร์ บริษัท โอสถสภา บริษัท ข้าวแสนดี บริษัท น้ำมันพืชไทย บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) บริษัท ซีพี-เมจิ บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า(ประเทศไทย) บริษัท กรีนสปอต บริษัท ดัชมิลล์ รวมถึงห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ 18 ราย ที่มีสาขารวมกว่า 15,300 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท บริษัท ซีพี ออลล์ บริษัท สหลอว์สัน บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) บริษัท ซี.เจ.เอ็กเพรส กรุ๊ป บริษัท บางจาก รีเทล บริษัท ทวีกิจซุปเปอร์ เซ็นเตอร์ บริษัท ซุปเปอร์ชีป และบริษัท เอกภาพซุปเปอร์ซัพพลาย

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image