ธ.ก.ส.เร่งสาขา 37 จังหวัด จ่ายสินเชื่อหนุนปลูกข้าวโพดหลังทำนา

นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้มอบหมายให้สาขาในพื้นที่เป้าหมาย 37 จังหวัด เร่งดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้เกษตรกรได้มีเงินทุนในการเพาะปลูกทันการผลิตภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยประสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมพบปะและนัดประชุมกลุ่มลูกค้าเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อชี้แจงรายละเอียดและความสาคัญ ตลอดจนประโยชน์ของโครงการที่เกษตรกรจะได้รับ ซึ่งผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2561 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการสนใจขอสินเชื่อแล้ว 46,024 ราย จำนวนพื้นที่ 432,380 ไร่ โดยเกษตรกรได้มีการนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตและจัดหาปัจจัยการผลิตผ่านบัตรเกษตรสุขใจ จำนวน 38,083,500 บาท

นายศรายุทธกล่าวว่า ประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับนอกจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่่ำเพียงร้อยละ 0.01 แล้ว รัฐบาลยังอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราไร่ละ 65 บาท ให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ดังนั้นกรณีที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและจากศัตรูพืชในช่วงที่เพาะปลูก เกษตรกรจะได้รับวงเงินคุ้มครอง 1,500 บาทต่อไร่ สำหรับภัยธรรมชาติ 7 ภัย และวงเงินคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ สำหรับภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด นอกจากนี้รัฐบาลได้ประสานงานภาคเอกชน ประกันการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรว่าจะได้รับการดูแลทั้งด้านเงินทุน การคุ้มครองความเสี่ยงจากการผลิตแล้ว ยังสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม ช่วยสร้างรายได้ที่แน่นอนอีกด้วย

นายศรายุทธ กล่าวว่า โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ธ.ก.ส.ได้สนับสนุนสินเชื่อ โดยแบ่งเป็น 3 โครงการ 1.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา เพื่อให้เกษตรกรใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการผลิตและจัดหาปัจจัยการผลิตผ่านบัตรเกษตรสุขใจ ในวงเงินไร่ละไม่เกิน 2,000 บาท พื้นที่ไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินกู้รวมไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ 2.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ผ่านสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิก ขอรับสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวผ่านสหกรณ์การเกษตรที่ตนเองเป็นสมาชิก โดยสหกรณ์สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันกู้

นายศรายุทธกล่าวว่า และ 3.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ผ่านสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยสหกรณ์สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันกู้ โดยจะมีระยะเวลาจ่ายเงินกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562-30 มิถุนายน 2562 โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนาได้ถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 หรือสอบถามได้ที่Call Center โทร. 0 2555 0555 และ ธ.ก.ส.ทุกสาขา

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image