จับตานโนบายการเงิน คาดกนง.-เฟด ขึ้นดอกเบี้ยส่งท้ายปี

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดที่ 32.81บาท อ่อนค่าเล็กน้อยจาก 32.80บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นวันทำการก่อน ในสัปดาห์นี้แนะนำจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)  ของไทย  และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดว่าวันที่ 19 ธันวาคมนี้ กนง.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปที่ระดับ 1.75% เพิ่มขึ้น 0.25% จากปัจจุบัน 1.50% เพื่อการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ยในปัจจุบันเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถปรับให้แนวโน้มดอกเบี้ยไทยให้เป็น ขาขึ้นเช่นเดียวกับทั่วโลกได้โดยไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ดังนั้น หลังการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้กนง.จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรอความชัดเจนของการเมืองในประเทศ และรอดูทิศทางของนโยบายการเงินทั่วโลกก่อน โดยอาจกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเร็วที่สุดในช่วงครึ่งหลังของปี 2562

นายจิติพล กล่าวว่า ด้านเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปที่ระดับ 2.25-2.50% เพิ่มขึ้น 0.25% อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนเฝ้ารอ คือการให้แถลงการณ์หลังจบการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ มีโอกาส ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี)สหรัฐ และปรับลดเป้าหมายการขึ้นดอกเบี้ยลงเหลือ 2 ครั้ง ในปี 2562 และ 1 ครั้งในปี 2563 เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าส่งผลลบกับเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก และยังกดดันให้ตลาดการเงินสหรัฐเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยง อย่างหนัก ส่วนวันที่ 20 ธันวาคม การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.10% และคงเป้าหมายบอนด์ยิลด์ระยะยาว 10ปีที่ 0.00% นอกจากนี้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในการประชุมครั้งนี้ด้วย ด้านธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% เนื่องจากทั้งเศรษฐกิจและค่าเงินปอนด์ยังคงเผชิญปัญหาเบร็กสิทที่มีความไม่แน่นอนสูง

“ภาพรวมตลาดการเงินในสัปดาห์นี้ ต้องจับตาธนาคารกลางเกือบทุกวัน อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่านโยบายการเงินในปัจจุบันน่าจะเป็นตัวช่วยในการปรับสมดุลย์ของเสถียรภาพเศรษฐกิจและตลาดทุน เพราะธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดมากถ้าเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ ทุกธนาคารกลางจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรอความชัดเจนของเศรษฐกิจและการค้าโลกให้กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งก่อน” นายจิติพลกล่าว

นายจิติพล กล่าวว่า ค่าเงินบาทช่วงนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ แม้แนวโน้มหลักจะมีโอกาสแข็งค่าขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงสงครามการค้าเข้ามากดดัน ทำให้ตลาดปิดรับความเสี่ยงอยู่เป็นครั้งคราว แม้ตลาดจะรับข่าวไปบ้างแล้วว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยพร้อมกับกนง.ที่จะขึ้นดอกเบี้ย แต่เชื่อว่าตลาดไม่ได้ไว้ใจธนาคารกลางมากนัก ส่วนหนึ่งจึงรอความชัดเจนก่อน ดังนั้นเงินบาทจึงยังสามารถแข็งค่าขึ้นได้อีกเมื่อเหตุการณ์ทั้งสองเกิดขึ้นจริง กรอบเงินบาทระหว่างวัน 32.75-32.85บาท กรอบเงินบาทในสัปดาห์ 32.60-33.10บาท

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image