‘สนธิรัตน์’ เตือนผู้ค้าห้ามฉวยโอกาสโก่งราคาช่วงปีใหม่ สั่ง พณ.จังหวัดตรวจเข้ม (มีคลิป)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ และการจัดงานมหกรรมลดราคาสินค้า “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จ.นนทบุรี ว่ากระทรวงพาณิชย์มีมาตรการดูแลราคาสินค้าและรักษาความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ โดยได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัดออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก ค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านจำหน่ายสินค้าให้มีการปิดป้ายแสดงราคากระเช้าของขวัญหรือชุดของขวัญต้องมีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน และต้องแสดงรายการและราคาสินค้าด้วยขนาดตัวอักษรและตัวเลขขนาด 16 ขึ้นไป อีกทั้งกำชับไม่ให้นำสินค้าที่ใกล้หมดอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเสื่อมคุณภาพมาจัดลงในกระเช้าหรือชุดของขวัญ

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ได้ตรวจเยี่ยมการจัดมหกรรมลดราคาสินค้า ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale ซึ่งห้างสรรพสินค้าได้ให้ความร่วมมือลดราคาจำหน่ายสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน หมวดเครื่องครัว หมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า หมวดวัสดุก่อสร้าง ในทุกสาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2561-9 มกราคม 2562 รวมระยะเวลา 28 วัน ลดราคาจำหน่ายสูงสุด 80% พบว่า ประชาชนให้ความสนใจจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก

“กระทรวงพาณิชย์ขอฝากให้ประชาชนเลือกซื้อและสนับสนุนสินค้าไทย สินค้าชุมชน เป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่กัน เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการและเศรษฐกิจภายในประเทศ ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ ร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท กรณีขายราคาสูงเกินควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวถึงประเด็นมีการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้จ่ายในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อาจผิดวัตถุประสงค์ในการใช้งานว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีการแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกที่รัฐให้เงิน 200-300 บาท หรือค่าอบรมจะได้รับเงินเพิ่มจาก 300 บาท เป็น 500 บาท ส่วนนี้จะใช้จ่ายได้เฉพาะในร้านธงฟ้าประชารัฐที่ขึ้นทะเบียนกับกรมบัญชีกลางเท่านั้น ส่วนที่ 2 ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีเงิน 1,000 บาท ให้ผู้สูงอายุเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือนำไปจ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ และค่าเช่าบ้านได้

Advertisement

“กรณีห้างสรรพสินค้า ติดประกาศต่างๆ เพราะการจับจ่ายใช้สอยของผู้ที่มีรายได้น้อย หากที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าใดที่มีชื่ออยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สามารถยื่นขอรับภาษีแวตคืนจากกระทรวงการคลังได้ ซึ่งจะได้รับคืนประมาณ 6% ทั้งนี้ เป็นนโยบายที่ทางรัฐบาลต้องการคืนภาษีในส่วนที่ผู้ที่มีรายได้น้อยไปจับจ่ายใช้สอย เพื่อมาขอคืนแวตต่อไป ส่วนในเรื่องที่ทางร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่นอีเลฟเว่น จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการชำระค่าใช้จ่ายได้นั้น มองว่าทุกร้านค้าที่ต้องการคืนแวตให้กับประชาชนก็สามารถเข้าร่วมโครงได้ทั้งสิ้น” นายสนธิรัตน์กล่าว

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image