เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุเพลิงไหม้และมีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งบิดาของผู้เสียชีวิตติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมนั้น ได้รับรายงานจาก ภ.จว.ปทุมธานี ว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม เวลาประมาณ 22.00 น. สภ.คูคต ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านและมีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง จำนวน 1 ราย ภายในหมู่บ้านธัญธานี บ้านเลขที่ 50/11 หมู่ 3 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ น.ส.สุภาณี หรือเบนซ์ สินอนันต์ตระกูล นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำบริเวณชั้นที่สองของบ้านพัก ซึ่งห้องน้ำดังกล่าวอยู่ใกล้กับห้องพระ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดต้นเพลิง จากนั้นได้ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลภูมิพลชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น โดยตามร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่พบร่องรอยบาดแผลใด เชื่อว่าอาจจะขาดอากาศหายใจเนื่องจากสำลักควัน จึงได้ทำการบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุประกอบคดี และวาดภาพแผนที่เกิดเหตุ
รองโฆษก ตร.กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแฟนสาวของนายพงษ์เพชร หรือบอล บางแก้ว สินสุวรรณ์ บุตรชายเจ้าของบ้าน โดยขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ภายในบ้านทั้งหมด 8 คน รวมผู้เสียชีวิต ขณะเกิดเหตุ น.ส.สุภาณี ผู้เสียชีวิต กำลังอาบน้ำอยู่ภายในห้องน้ำ คนที่อยู่ในบ้านได้ยินเสียงไม่ทราบว่าอะไรแตก จึงรีบวิ่งออกจากบ้านมาดูด้านนอก พบว่ามีเพลิงไหม้ขึ้น โดยต้นเพลิงมาจากห้องพระ แต่เนื่องจากเพลิงลุกไหม้แรงทำให้ผู้ตายไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ทัน จึงเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายประเมินมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท
“สำหรับประเด็นที่บิดาของผู้เสียชีวิตเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมนั้น ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก โดยยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์โรงพยาบาลภูมิพล ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และผลการสืบสวนสอบสวนความเชื่อมโยงทางคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและคลี่คลายข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ อย่างแท้จริง” รองโฆษก ตร.กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนมาโดยตลอดในการทำสำนวนการสอบสวนด้วยความรอบคอบ สิ้นกระแสความในทุกประเด็นที่มีข้อสงสัย คำถาม หรือเงื่อนงำในคดีต่างๆ โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน
