ฉาววงการหมอ นายหน้าคลินิกเสริมอึ๋ม อ้างชื่อรพ.ดัง ทำสาว “นมเน่า” บทเรียนราคาแพงที่ต้องจ่ายด้วยเลือดเนื้อ

“ผู้บริโภค” คำๆ นี้ ตามภาษาปาก ก็คือมนุษย์ทุกคนที่จับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า อาหาร สิ่งจำเป็นหรืออาจจะไม่จำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นธรรมดาสามัญ ทั้งหมดก็เพื่อความพึงพอใจสูงสุดในราคาที่ผู้ซื้อเห็นสมควรว่าเหมาะที่สุด

แต่ทว่า “สินค้า” ในราคาที่น่าพอใจกลับกลายเป็นที่หวาดผวาสำหรับคนรักสวยรักงาม เมื่อมีผู้เสียหายหลายสิบราย ตบเท้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ให้บริการเสริมความงาม “แอลบีคลีนิก” และ “เอ็มซีคลีนิก” หลังเข้ารับศัลยกรรมเสริมหน้าอกแล้วเกิดปัญหา “นมเน่า” แต่ปฏิเสธความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายบางรายมีหัวนมผิดรูปไม่สามารถใส่ยกทรงได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ขณะที่ยังมีบางรายมีอาการบาดเจ็บถึงขั้น “เฉียดตาย” เพราะเสียเลือดไปมาก

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ.ได้จับกุมตัว 3 ผู้ต้องหา คือ น.ส.ดิธินี หรือแอล ใจกุศล นายหน้าจัดหาลูกค้า น.ส.หฤทัย รัตนวิไลสกุล และนายอลงกรณ์ วงศ์สวัสดิ์ แพทย์วิชาชีพผู้ดำเนินการผ่าตัดที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเสริมความงามแต่อย่างใด! ก่อนจะถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” และความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตามมาด้วย ข้อหา”นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบ” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ขณะที่ในชั้นสอบสวนทราบข้อมูลจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ว่าได้รับคำแนะนำจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลังพบเห็นโฆษณาเสริมหน้าอกผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนจะทราบภายหลังว่าเป็นนายหน้าในเครือข่ายเอเยนต์จัดหาลูกค้าให้กับคลีนิก แนะนำให้ไปติดต่อทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกกับแอลบีคลินิก เมื่อเข้าไปในเพจคลีนิก เห็นผลรีวิวจากลูกค้าที่น่าพึงพอใจ แถมยังจัดโปรโมชั่นในราคาตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 4 หมื่นบาท และอ้างว่าใช้แพทย์เฉพาะทางในการผ่าตัด จึงเข้าไปดูสถานที่จริงซึ่งตั้งอยู่ในย่านเมืองเอก จ.ปทุมธานี ก่อนจะวางเงินมัดจำและนัดแนะหมอที่ดำเนินการผ่าตัดซึ่งเป็นแพทย์หญิงในเวลาต่อมา

Advertisement

สาวเจ้าเล่าอีกว่า พิรุธแรกที่พบคือ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดเป็นผู้ชาย ซึ่งไม่ใช่แพทย์หญิงคนที่นัดไว้ โดยพนักงานประจำคลินิกอ้างว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้ย้ายไปทำสาขาอื่นแล้ว เมื่อขอเงินมัดจำคืนก็ถูกปฏิเสธ เธอจึงตกอยู่ในภาวะจำยอม และดำเนินการผ่าตัดต่อไป ซึ่งในการผ่าตัดใช้เพียงยาชาและกรีดอกเพื่อยัดซิลิโคนเข้าไป และไม่มีการพักฟื้นอีกด้วย ล้วนผิดวิสัยการศัลยกรรมซึ่งจัดเป็นการผ่าตัดใหญ่ทั้งสิ้น

กลิ่นเริ่มไม่ดีเมื่อถึงวันตัดไหม แพทย์ได้สั่งให้เธอไปทำการตัดไหมที่เอ็มซีคลินิกในย่านรัชโยธิน จากนั้นก็เกิดอาการเจ็บหน้าอกตามมาด้วยมีเลือดและน้ำหนองไหล จึงติดต่อไปหาแพทย์ที่ทำการผ่าตัดที่แอลบีคลินิกได้คำตอบกลับมาว่าเป็นเรื่องปกติ ต้องรักษาด้วยการกดซิลิโคนเพื่อขับเลือดเสียออกมา แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นจนต้องไปรักษาเองที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งคลินิกปัดที่จะเยียวยาค่าใช้จ่ายให้ นำมาสู่การรวมกลุ่มและเข้าร้องเรียนผ่านสื่อจนกระทั่งตำรวจสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับแพทย์และผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีได้ ขณะที่บางรายยังคงหลบหนี

แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เมื่อมีผู้เสียหายอีกรายที่ไม่ใช่ผู้เข้ารับบริการเสริมหน้าอก แต่เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ถูกแอบอ้างชื่อ ซึ่งเอ็มซีคลินิกอ้างว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน แต่นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อได้ชี้แจงต่อสื่อแล้วว่า เอ็มซีคลินิกได้ทำการเช่าสถานที่ของโรงพยาบาลซึ่งเดิมเป็นเพียงคลีนิกเสริมความงาม ตั้งอยู่ในย่านสยามสแควร์ เขตปทุมวัน ก่อนจะย้ายมาบริเวณเขตดุสิตเนื่องจากได้ปรับสถานะเป็นโรงพยาบาล จึงต้องมีการใช้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนายแพทย์ระวีวัฒน์ได้ยืนยันว่า โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเอ็มซีคลินิก ไม่ว่าจะการใด และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดต่อไป

Advertisement

ด้าน พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. ได้สรุปถึงภาพรวมเครือข่ายว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่ามีตัวละครหลักทั้งหมด 3 ฝ่าย คือ แพทย์รับจ้างที่ไม่ได้ประจำคลินิกหรือสถานประกอบบริการทางแพทย์ หรือ “หมอมือปืน” ,เจ้าของคลินิกหรือสถานบริการการแพทย์ และนายหน้าจัดหาลูกค้า โดยขณะนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความร้องทุกข์มากขึ้น และคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน ทาง บก.ปคบ.จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดและขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. ให้ความเห็นต่อคดีนี้ โดยเปรียบเทียบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ส่วน ซึ่งมีหน้าที่ต่างกัน ไม่ว่าจะฝ่ายสืบสวน สอบสวน หรือป้องกันและปราบปราม ล้วนมีความเชี่ยวชาญ แม้ว่าหมอทุกสายจะสามารถทำการผ่าตัดได้หมดก็ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด นอกจากตัวแพทย์เองที่จะต้องระบุสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้คนไข้ทราบแล้ว ประชาชนก็ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด ซึ่งอาจทำได้จากการตรวจสอบหารายชื่อผ่านเว็บไซต์แพทยสภา หรือ https://www.tmc.or.th/ เพียงกรอกชื่อขึ้นไปก็จะแสดงข้อมูลที่ควรทราบของแพทย์รายนั้น ที่สำคัญ หากต้องเข้ารับการผ่าตัดก็ควรไตร่ตรองให้ดี และหมั่นดูแลรักษาตัวเองตามแพทย์สั่งด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าและบริการ หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สามารถติดต่อมายังสายด่วน บก.ปคบ. 1135

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image