เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. อำนวยการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ภูมิทัศ ปิติจิระนน สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายฤทธิไกร โภคา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187/1 ม.4 ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.445/2561 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” จับได้ที่บริเวณหอพัก รีเจนท์แมนชั่น ม.1 ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
สืบเนื่องจาก นายฤทธิไกร ได้ปลอมข้อมูลแอพพลิเคชั่นไลน์ของ น.ส.นพสร สังข์ฤทธิ์ ก่อนทำทีทักไปยืมเงิน น.ส.นันท์นภัส สุขใจ ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.นพสร และตกลงว่าจะคืนเงินให้ภายในวันที่ 27 มีนาคม ทำให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ไป 14,200 บาท โดยให้โอนเข้าบัญชีบุคคลที่ 3 คือนายนูรีฮา สามะผ่านธนาคารกรุงเทพ แต่เมื่อครบกำหนด น.ส.นันท์นภัส กลับติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้ จึงได้สอบถามไปยัง น.ส.นพสร ก็แจ้งว่าตนไม่ได้ยืมเงินผู้เสียหาย และไม่ได้ใช้ภาพโปรไฟล์ดังกล่าวในแอพพลิเคชั่นไลน์ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นก่อนมีการขออนุมัติหมายจับในเวลาต่อมา
จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าเมื่อช่วงเดือนมีนาคม น.ส.นูรีฮา สามะ เจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าวได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกลุ่มหางาน ต่อมามีผู้ใช้ชื่อ “มาดามหลินหลิน”เสนองานให้ เป็นงานซื้อสลิปบัตรเติม เงิน ทรูมันนี่จากร้านสะดวกซื้อ เมื่อมียอดโอนเงินเข้าบัญชีจากผู้เสียหายมา ผู้ต้องหาจะผู้สั่งให้ น.ส.นูรีฮา สามะ ออกไปกดเงินและซื้อบัตรเติมเงินตามราคาที่กำหนด ส่งให้กับ นายพศิน ทองเชิด และนายชญานิน วงศ์ศุภเลิศ ผู้ต้องหาสองราย ซึ่งถูกกองปราบจับกุมตัวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทำหน้าที่ เปิดรับแลกและแปลงเงินจากบัตรเติมเงินเป็นเงินสดเพื่อโยนกลับไปให้นายฤทธิไกร ภายหลังเมื่อนายฤทธิไกรทราบว่านายพศินทองเชิด และนายชญานิน วงศ์ศุภเลิศ ถูกจับกุม จึงไหวตัวหลบหนี ไปกบดานพักอาศัย กับแฟนสาว ใกล้บริเวณมหาวิทยาลัย แม่ฟ้าหลวงก่อนถูกจับได้ในที่สุด
สอบสวนนายฤทธิไกรให้การรับสารภาพว่า ได้เรียนรู้การก่อเหตุ จากการดูข่าวหลอกตุ๋นเงินในโซลเซียลเน็ตเวิร์ก จึงลองหัดทำดู ปรากฏว่าได้ผลและได้เงินจริง ตนจึงทำซ้ำหลายๆครั้ง โดยมีวิธีการเลือกเหยื่อที่เป็นสุภาพสตรีมีความอ่อนไหว เชื่อคนง่าย จากที่เห็นพฤติกรรมในการเล่นเฟซบุ๊ก หรือดูที่การคอมเมนต์ เพื่อหาความสัมพันธ์ เมื่อได้เป้าหมายแล้ว ก็จะปลอมไลน์ไปหลอกขอยืมเงิน เพื่อซื้อบัตรเติมเงินทรูมันนี่ไปขายให้แม่ค้าในเฟซบุ๊กที่เปิดรับซื้อบัตรออนไลน์และแปลงเป็นเงินสดโอนกลับมาให้โดยหักค่าบริการบางส่วนเช่นราคา 1,000 บาท จะได้เป็นเงินเข้าบัญชี จำนวน 600-700 บาท ก่อเหตุตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 – 25 ตุลาคม 2561 ได้เงินสดจำนวนหลายแสนบาท ส่วนสาเหตุที่ ต้องนำเงินที่หลอกมาจากเหยื่อโอนไปบัญชี ของบุคคลที่ 3 และให้ซื้อบัตรเติมเงินทรูมันนี่แล้วโอนไปให้กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ นำไปให้แม่ค้าออนไลน์ ก็เพื่ออำพราง ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามตัวได้ ส่วนเงินที่ได้มาก็นำมาใช้สอยในซีวิตประจำวันเที่ยวเตร่ ตามสถานบริการ เล่นการพนันบอลออนไลน์ เบื้องต้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป