ระวังหลับใน! ตร.ทางหลวงห่วงขากลับ พร้อมรับปชช.เข้ากรุง แนะเส้นทางขับสบาย เปิดหน่วยบริการให้พักทั่วปท.

(แฟ้มภาพ)

เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(รองผบก.ทล.) กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกการจราจร เส้นทางเดินรถมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร บนถนนสายสำคัญจากหลายภูมิภาค ในช่วงท้ายเทศกาลปีใหม่ ว่าสำหรับเส้นทางขากลับที่จะเป็นจุดวิกฤติจากพื้นที่ภาคเหนือ คือ ทางต่างระดับบางปะอิน ที่ถนนสายเอเชีหมายเลข 32 ตัดกับถนนพหลโยธินหลักกิโลเมตรที่ 57 จึงแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ซึ่งตามปกติแล้ว หากมุ่งหน้าออกจากทางเหนือก็จะใช้เส้นทางสายเอเชียตามปกติ หรือจะเลี่ยงไปใช้

1. ทางด่วนหมายเลข340 มุ่งสู่ฝั่งตะวันตกที่บางบัวทอง หรือสุพรรณบุรี
2. ทางต่างระดับบางประหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ออกทางหลวง347 ตัดกับวงแหวนตะวันตก ข้ามไปขึ้นทางด่วนบางปะอิน-บางนา และ
3. อีกเส้นหนึ่งหากไม่ชำนาญเส้นทางก็จะไม่คุ้นเคย คือเลี้ยวซ้ายจากด่วนบางปะอิน เข้าถนนโรจนะ ที่นิคมโรจนะ ตัดกับถนนพหลโยธิน ออกถนนรังสิต-นครนายก

“ต่อมา สำหรับขากลับจากภาคตะวันออก ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมีทั้งทางด่วนสุขุมวิท อุดรรัถยา และมอเตอร์เวย์สาย 7 เพียงพอต่อการรองรับพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มที่ไปเที่ยวในภูมิภาคนี้จะไปพักผ่อนในระยะเวลาสั้นๆ คาดว่าในช่วงบ่ายถึงเย็นวันนี้คงทยอยกลับ ทำให้อาจมีปริมาณการจราจรที่เยอะ”

“ส่วนภาคใต้นั้น มีประชาชนที่มุ่งหน้าไปยังอ.ชะอำ และ หัวหิน จำนวนมาก คงทยอยเข้าเมืองในช่วงบ่ายของวันนี้ คาดว่าจะมีปริมาณรถที่เยอะเช่นกัน โดยจะผ่านทาง จ.เพชรบุรี ทำให้มีจุดวิกฤติบริเวณทางต่างระดับวังมะนาว รถจะมีการชะลอตัวสะสมเพื่อขึ้นสะพานข้ามที่ซอยโอเวอร์ ซึ่งตำรวจทางหลวงได้เตรียมที่จะเปิดช่องทางพิเศษ ให้ลอดใต้ต่างระดับวังมะนาว และตรงไปกลับรถก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 2 แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็จะมีจุดชะลอตัวติดขัดในช่วงแสมดำ ก่อนจะถึงวงแหวนรอบนอก หลัก กม.ที่10 หากหลุดเลยมาแล้วก็น่าจะคล่องตัว แต่สำหรับผู้ที่จะมุ่งหน้าไปยังบางบัวทอง,พุทธมณฑล ให้ใช้ถนนเพชรเกษม ตรงไปยัง จ.ราชบุรี ออก จ.นครปฐม จะสะดวกกว่า”

ขณะที่สายอีสานเหนือ เช่น จ.อุดรราชธานี ,ขอนแก่น ,หนองคาย และ ชัยภูมิ  นั้น รองผบก.ทล.กล่าวว่า ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 205 ออกถนนโคกแค-หล่มสัก ไปทางหลวงหมายเลข 27 ไปออกทาง อ.ชัยบาดาล หรือ แยกม่วงค่อม ก่อนใช้ถ.พหลโยธินมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ หรือใช้เส้นทางหลักอย่างถ.มิตรภาพ เข้า ถ.พหลโยธิน แต่การจราจรจะมาชะลอตัวอยู่บริเวณ ต.คลองไผ่ ,กลางดง และ อ.สีคิ้ว ใน จ.นครราชสีมา รวมถึง ฟาร์มโชคชัย โดยทางเราก็จะเปิดช่องทางพิเศษไว้รองรับ ก่อนจะมาชะลอตัวอีกครั้งเนื่องจากการซ่อม ถ.พหลฯ ที่ จ.สระบุรี จากนั้นเมื่อเลยมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะคล่องตัว
สำหรับสายอีสานใต้ มุ่งหน้าสู่ฝั่งตะวันออก เช่น จ.ชลบุรี ,จันทบุรี และตราด ใช้เส้นทางกบินทร์บุรี-ปักธงชัย หมายเลข 304 มาทางถนนหมายเลข 24 ตามปกติ แต่จะมีการซ่อมทางจราจรปิดเบี่ยงไปมาบ้าง ซึ่งมีการเปิดใช้อุโมงค์บนเส้นทางดังกล่าวแล้วก็คาดว่าน่าจะดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่จะใช้เส้นทางนางรอง มุ่งหน้าไปจันทบุรี หรือ อ.อรัญประเทศ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 348 ซึ่งจะมีการปิดเลนสวน ให้รถออกทั้ง 2 ช่องทาง
สำหรับเรื่องเวลาการใช้เส้นทาง แนะนำให้เดินทางก่อนเวลา 06.00น.-00.00น. หากต้องใช้เส้นทาง ถ.พหลโยธิน ส่วนสายใต้ให้ใช้ก่อนเวลา 10.00น.-18.00น.

Advertisement

“ข้อมูลต่างๆ สามารถติดตามได้ผ่านเฟซบุ๊ก ตำรวจทางหลวง หรือผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ “@highway1193” และสายด่วน 1193 แต่แนะนำให้ใช้ไลน์มากกว่า เมื่อส่งข้อความหาแล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยพูดคุย ส่งภาพ-วิดีโอกันได้ ตลอด 24 ชั่วโมง” พ.ต.อ.เอกราช รอง ผบก.ทล. กล่าวและว่า

สำหรับรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา จะแบ่งได้เป็นเหตุที่เกิดบนทางหลวง และเหตุบนท้องที่ ซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งด้านพฤติกรรมและประเภทรถ โดยในช่วงเฝ้าระวังเหตุใน 3 วันแรก พบว่าบนทางหลวงมุ่งหน้าออกสู่ภูมิภาคต่างๆ จะมีผู้ขับขี่รถเก๋ง ,กระบะ และจักรยานยนต์ เกิดจากอาการหลับใน ,ตัดหน้ารถ และใช้ความเร็วเกินกำหนดเป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีผู้ที่เมาแล้วขับน้อย

“สิ่งที่ผมเป็นห่วงในช่วงการเดินทางกลับ คือเรื่องหลับในที่เพิ่มขึ้นมาก แนะนำให้พักผ่อน หากจำเป็นก็ต้องจอดรถในปั๊มน้ำมันแล้วนอนอย่างน้อย 20-30 นาที ไม่ควรจอดไว้ข้างถนนเด็ดขาด เพราะรถมอเตอร์ไซค์มักจะขับขี่มาบนไหล่ทางจึงจะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างที่เห็นเป็นประจำ ทั้งนี้ หากที่จอดรถไม่เพียงพอ ยังมีหน่วยบริการตำรวจทางหลวงไว้เป็นที่ให้พักนอนกว่า 201 แห่งทั่วประเทศ มีห้องน้ำห้องพักให้ฟรี โดยเราขึ้นรายละเอียดพร้อมแผนที่ไว้บนหน้าเฟซบุ๊กแล้ว” รอง ผบก.ทล. กล่าวทิ้งท้าย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image