เมื่อวันที่ 2 มกราคม นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) ได้มอบปลัดกษ.และอธิบดีและผู้บริหารใน กษ.ทุกสังกัดเตรียมพร้อมหลังรับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยว่า แนวโน้มสถานการณ์พายุ’ปาบึก’ ช่วง 3-5 มกราคม ปริมาณฝน 200 – 300 มิ่ลลิเมตรต่อวันวัน , สตอร์มเซิร์จ ความสูง 3-5 เมตร โดยได้สั่งการให้
1.ทุกหน่วยงานในกษ.กรมชลประทานประเมินความเสี่ยงและลดความเสี่ยงเตรียมป้องกันเหตุ โดยติดตามเส้นทางพายุ ปริมาณฝน ปริมาณน้ำท่า คลื่นจากพายุ เพื่อดำเนินการพร่องน้ำ/ระบายน้ำ รองรับมวลน้ำ และบริหารจัดการน้ำในเขื่อน อ่าง ขนาดต่าง ๆ ให้สอดคล้องขนาดและความรุนแรงของพายุ
2.จัดสรรพกำลัง ยานพาหนะขนาดใหญ่ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ ระบบสื่อสาร/วิทยุสื่อสาร ความพร้อมประตูระบายน้ำ เสบียงอาหาร เสบียงสัตว์ เวชภัณฑ์ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในพื้นทีเมื่อเผชิญเหตุอุทกภัยก่อนหน้า
3.ร่วมปฏิบัติการตามแนวปฏิบัติของ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อย่างใกล้ชิด
4.ร่วมสนับสนุนการป้องกัน ระงับยับยั้ง เรือประมง ตามประกาศงดเดินเรือของจังหวัด
5.เตรียมพร้อมเพื่อการหยุดยั่งความเสียหาย การประเมินความเสียหาย และการฟื้นฟู ด้านการเกษตร เมื่อพายุได้ผ่านไปโดยเร็ว
ขอให้รีบสั่งการทางวิทยุช่องทางการสื่อสารทุกช่องทางไปยังหน่วยงานกษ.ในพื้นที่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปด้วยพร้อมจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งด้านการสูบน้ำ การอพยพปศุสัตว์การเตือนปชช.ด้วย อย่าให้ช้าจนเสียการรวมทั้งมอบหมายผต.กษ.ไปตรวจติดตามด้วยเพื่อเป้าหมายลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด
ขอให้ทุกหน่วยตรวจสอบวัสดุ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ที่ทำการ/บ้านพักด้วยโดยให้หาทางระวังป้องกันอันตรายจากพายุ ปาบึก ที่อาจทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายไว้ด้วย
ขอให้ทุกหน่วยของกษ.ซึ่งปฎิบัติงานในพื้นที่ประสานการปฎิบัติกับ กอ.ปภ.จังหวัดและหน่วยทหารในพื้นที่ให้เกิดความเป็นเอกภาพด้วย
สำหรับ กษ.ส่วนกลางให้กำหนดเจ้าหน้าที่ประสานงานกับ กอ.ปภ.ชาติ(กรม ปภ./มท.)โดยใกล้ชิดด้วย