สรรพากรเปิดประชาพิจารณ์ลดหย่อนภาษีเงินบริจาคพรรคการเมืองให้สูงสุด 5 หมื่นบ.

สรรพากร รุกแผนเก็บภาษี

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรเปิดเผยว่า กรมสรรพากรเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็นครั้งที่ 3 ต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรกรณีการหักลดหย่อนและการหักรายจ่ายสำหรับการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยเปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 9 มกราคมนี้ เพื่อนำความเห็นไปประกอบพิจารณาการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวให้สมบูรณ์มากที่สุด

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เหตุที่ต้องดำเนินการร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันที่มีความสำคัญต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การส่งเสริมให้พรรคการเมืองดำรงอยู่เป็นตัวแทนเจตจำนงทางความคิดของประชาชนนั้น จำเป็นต้องมีมาตรการในการเสริมสร้างระบบพรรคการเมือง โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง

แหล่งข่าวกล่าวว่า มาตรการหนึ่งที่จะนำมาใช้ คือ ให้ประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองที่ตนสนับสนุน เพื่อให้พรรคการเมืองมีเงินที่จะใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองหรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง หรือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยบุคคลธรรมดาสามารถหักลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคไม่เกินปีละ 1 หมื่นบาท หรือนิติบุคคลที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำเงินที่บริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ไม่เกินปีละ 5 หมื่นบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่า มาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560กำหนดให้ผู้บริจาคเงินแก่พรรคการเมืองมีสิทธินำจำนวนเงินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อนและรายจ่ายทางภาษีตามที่กำหนดในประมวลรัษฎากรได้ จึงสมควรกำหนดให้บุคคลธรรมดาที่มีหน้าที่เสียภาษี หรือนิติบุคคลที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำเงินที่บริจาคมาหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิหรือนำมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้

Advertisement

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของการร่างกฎหมาย คือ จะกำหนดให้นำเงินที่บริจาคให้แก่พรรคการเมือง หรือเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ให้เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ไปหักลดหย่อนในการคำนวณเงินได้สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ และกำหนดให้เงินที่บริจาคแก่พรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้

แหล่งข่าวกล่าวว่า กรมสรรพากรวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมายดังกล่าว โดยในด้านเศรษฐกิจและสังคมนั้น จะถือเป็นเครื่องมือในการให้ประชาชนสามารถสนับสนุนพรรคการเมืองได้อย่างเปิดเผย สร้างความเชื่อมั่น และส่งผลให้ระบบพรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง และดำรงอยู่เป็นตัวแทนเจตจำนงทางความคิดของประชาชนต่อไป ส่วนผลกระทบด้านรายได้ คาดว่า จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 2.1 พันล้านบาท เมื่อเทียบความคุ้มค่าของภารกิจกับงบประมาณที่ต้องใช้แล้ว พบว่า ผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่ เสียภาษีซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีประจำปี หรือในรอบระยะเวลาบัญชีต่อกรมสรรพากรอยู่แล้ว จึงไม่เป็นภาระหรือจำกัดสิทธิต่อผู้เสียภาษีแต่อย่างใด

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image