เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 จากเหตุการณ์อาคารพาณิชย์ร้างที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนเกิดทรุดตัว และถล่มลงมา บริเวณปากซอยรามคำแหง 51/2 ถนนรามคำแหงขาออก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย
เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า อาคารดังกล่าวเพิ่งมีการรื้อถอนเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อก่อสร้างเป็นปล่องรถไฟใต้ดินสถานีมหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โดยก่อนทรุดต้วถล่มมีคนงาน 9 คนดำเนินการรื้อถอนทุบตึกจากด้านใน แต่เนื่องจากตัวระเบียงแผ่นปูนของชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว จึงหลุดมากระแทกกันและสาดถล่มลงมา ทำให้ผู้บาดเจ็บซึ่งกำลังเดินผ่านจุดรื้อถอนได้รับบาดเจ็บจากเศษอิฐเศษปูนหล่นใส่ ท่ามกลางความแตกตื่นของประชาชนที่เดินอยู่ริมถนนใกล้จุดเกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการ เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว
พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวว่า ตำรวจจะสอบปากคำพยานทุกคน และเขตบางกะปิสั่งให้หยุดการดำเนินการรื้อถอนชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีคำสั่งจากเขตว่าจะให้เริ่มดำเนินการเมื่อใด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบโครงสร้างอาคารทั้งหมดรวมถึงอาคารใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งสองสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้รับผิดชอบโครงการได้ ทั้งนี้ ตำรวจจะตรวจสอบว่าการรื้อถอนนั้นทำถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อหานั้น จะต้องทำการสอบปากคำทุกฝ่ายเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้วจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 กล่าวว่า การรื้อถอนอาคารดังกล่าวมีการขออนุญาตตามขั้นตอน แต่กระบวนการรื้อถอนที่ทำให้เศษวัสดุตกหล่นลงมาเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บไม่มาก คาดว่าพักรักษาตัวไม่เกินหนึ่งสัปดาห์น่าจะเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องดูว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นหรือไม่ และดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอนหรือไม่
เบื้องต้นทราบว่า สาเหตุเกิดจากการรื้อถอนทำให้กำแพงชั้นบนสุดหล่นมาทับชั้นที่ 2 และ 3 ส่วนเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอสอบปากคำในรายละเอียด ทั้งวิศวกรรมเขต และเจ้าหน้าที่โยธา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าต้นตอเกิดจากอะไร
“สำหรับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่า และถนนมีการขยายฟุตปาธใกล้เคียงกับแนวอาคารชั้น 2 และ 3 การรื้อถอนก็ยากลำบาก บางครั้งกระทบส่วนหนึ่งแล้วอาจทำให้ส่วนอื่นทลายลงมาได้ อาจเป็นความประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และจะเข้าข้อกฎหมายอย่างไร“ พล.ต.ต.ธีระพงษ์กล่าว และว่า สำหรับผู้บาดเจ็บนั้นสามารถเรียกร้องสิทธิได้ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ขณะนี้ทราบในรายละเอียดจากทั้งนายจ้าง ผู้รับเหมาและคนงานก่อสร้างแล้ว ทั้งนี้ ได้ให้ยุติการรื้อถอนทันที นอกจากนี้ตัวอาคารใกล้เคียงซึ่งเป็นธนาคารออมสินได้รับผลกระทบบริเวณชั้น 2 และ 3 ไม่สามารถขึ้นไปใช้งานได้ ส่วนชั้น 1 สามารถใช้ทำการได้ชั่วคราว จึงได้ขอความร่วมมือให้ทางเขตและวิศวกรรมของเขตบางกะปิออกหนังสือให้เจ้าของอาคารที่เกี่ยวข้องทราบ โดยในอนาคตอาจต้องหยุดทำการชั่วคราวต่อไป
