แบงก์ชาติยังไม่ฟันธง ‘กิตติพันธ์’ หมดคุณสมบัติหลังถูกกล่าวหาทุจริตปล่อยกู้เอิร์ธ จี้กรุงไทยแจงข้อมูลประกอบการพิจารณาเพิ่ม

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสถาบันการเงิน เป็นเรื่องที่ ธปท. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จึงได้กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของการเป็นผู้บริหารสถาบันการเงินไว้ในระดับที่สูง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งก็เป็นแนวที่ธนาคารกลางและผู้กำกับดูแลทั่วโลกใช้ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน กรณีข่าวเกี่ยวกับอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทยเป็นเรื่องที่กระทบต่อคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของผู้ทำหน้าที่บริหารสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทยได้มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และ ธปท. เห็นว่ายังมีข้อมูลที่ต้องให้ธนาคารกรุงไทย ชี้แจงเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรอข้อมูลดังกล่าวเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เป็นผลมาจากกรณีที่ธนาคารกรุงไทยมีการปล่อยสินเชื่อให้กับ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายและกลายเป็นหนี้เสียมากกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท และมีผลกระทบกับผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยธนาคารกรุงไทยที่เป็นเจ้าหนี้ใหญ่มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย 2.8 พันล้านบาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1.8 พันล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 350 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนี้สินกับลูกค้าที่เข้าลงทุนในหุ้นกู้เอิร์ท ที่ออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดมีจำนวน 2 ชุดด้วยกัน คิดเป็นวงเงิน 5.5 พันล้านบาท มีผู้ถือหุ้นกู้จำนวน 2,300 ราย ขณะที่เป็นหนี้สินอื่นๆเป็นตั๋วเงินระยะสั้น (บีอี) วงเงิน 2.9 พันล้านบาท โดยล่าสุดได้มีธนาคารกรุงไทยหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาร้ายแรงจากธนาคารกรุงไทยเกี่ยวกับความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อให้เอิร์ธ แก่นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ซึ่งเป็นอดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และอดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในธนาคารซีไอเอ็มบีในขณะนี้ยังเป็นไปตามปกติ ส่วนผลพิจารณาในอนาคตขึ้นอยู่กับทางกลุ่มซีไอเอ็มบี และธปท.เป็นผู้พิจารณาเป็นหลัก

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image