‘วีระศักดิ์’หนุน ตร.รายงานผลกวาดล้างเหลือบ-เอารัดเอาเปรียบ ยกระดับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว และ กีฬา กล่าวว่า มีรายงานจาก กก.3 บก.ทท.1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า พ.ต.ท.อัครพัชร์ ทองศรีวาณิช สว.กก.3 พร้อมด้วยสายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกวดขันรถแท็กซี่ที่เข้ามาให้บริการใน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบผู้กระทำความผิด 3 ราย คือ 1.นายอธิศักดิ์ ไม่ใช้มาตรโดยสาร 2.นายสุรินทร์ หมายเลขทะเบียนรถ ทส 9388 กทม ใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียน และ 3.นายรัชชานนท์ หมายเลขทะเบียนรถ มฎ 7641 กรุงเทพมหานคร ไม่ใช้มาตรโดยสาร นอกจากนี้ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. สั่งการให้ บก.ทท.1 ตรวจสอบกรณีย่านประตูน้ำมีบุคคลที่มักชักชวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยนักท่องเที่ยวไม่เต็มใจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ด้านการท่องเที่ยว โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2562 ทท.1 กก.1 ตรวจสอบพบการกระทำผิด 6 ราย คือ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแพลตตินั่ม 2 ราย, บริเวณถนนเพชรบุรี ซอย 21 จำนวน 2 ราย, บริเวณถนนเพชรบุรี ซอย 31 จำนวน 1 ราย, บริเวณแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี 1 ราย ฐานความผิดก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่นในที่สาธารณะ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท“ผมพูดมอบนโยบายนี้มาได้พักหนึ่งแล้ว ถึงเวลาให้รายงานการดำเนินงานตามนโยบายได้ทุกวัน เราต้องเร่งยกระดับความปลอดภัยทั้งจากอุบัติเหตุและจากการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวเดินทางกันเป็นระบบขึ้นเรื่อยๆ ถ้าระบบนี้อยู่ตัว จะได้ค่อยๆ ให้เป็นบทบาทกำกับของที่ปรึกษา หรือเลขา รมต.ต่อไป
จากนั้นค่อยส่งเป็นภารกิจฝ่ายประจำของกระทรวงและเครือข่าย ถ้าทำจนระบบแข็งแรง คนอยากมาเป็นเหลือบจะทยอยลดลง ออกกวาดซ้ำๆ บ้างสะกดรอยตามแหล่งที่ไปกวนนักท่องเที่ยวบ้าง ตร.ท่องเที่ยวทุกนายทุกพื้นที่ใช้งบใช้รถ เรือ อาวุธ น้ำมัน ทั้งกองบัญชาการจากงบประมาณกระทรวงท่องเที่ยว กระทรวงจึงรับบทเจ้ามือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับบทเจ้านายของ ตร.ท่องเที่ยว แต่วงการท่องเที่ยวไทย คือ เจ้าของผู้รับผิดชอบคำว่า “ความปลอดภัย” ของนักท่องเที่ยวตำรวจมีอำนาจจับกุมทั่วราชอาณาจักรเหมือนกองปราบปรามทุกประการ ผมจึงเลือกใช้จุดแข็งนี้มาทำงานสนามได้ ซึ่งจะต่างจากตำรวจท้องที่ แม้มีอำนาจสอบสวนก็จริง แต่การจัดนโยบายที่จะดูแลนักท่องเที่ยวในหลายท้องที่จะไม่ใช่ความสำคัญลำดับที่ดีพอ รวมทั้งความผิดในเรื่องที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวนั้น บ่อยครั้งเป็นการเปรียบเทียบปรับ และทำประวัติไว้ ถ้าทำซ้ำๆ จะได้ส่งศาลให้พิจารณาสั่งใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยต่อไปได้ เช่น ห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง, ห้ามเข้าเขตกำหนด เป็นต้น” นายวีระศักดิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image