นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯจับมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ นำเกษตรกรเยือนกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 21-22 มกราคม 2562 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกรของเวียดนาม ในเรื่องการปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ เนื่องจากเวียดนามเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรกรรมเช่นเดียวกับไทย ดังนั้น การเรียนรู้จากประสบการณ์ของเวียดนาม น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวของไทยให้เข้ากับพัฒนาการในระบบการค้าโลกที่เกิดขึ้น
ปัจจุบันการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) รุ่นใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ได้มีการหยิบยกเรื่องการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ หรือยูพอฟ (UPOV) 1991 ขึ้นหารือกันมากขึ้น ไทยจึงต้องช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกรไทย เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พัฒนาพืชที่มีความทนทานต่อโรคสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ช่วยเกษตรกรให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเกิดความคุ้มค่าในการลงทุน
“กรมเจรจาฯ และสภาเกษตรกรฯ เห็นควรศึกษา ให้ความรู้และเตรียมความพร้อมเกษตรกรไทยรับมือแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนาผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรที่เป็นภาคียูพอฟแล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ ประโยชน์ และผลกระทบที่เกษตรกรเวียดนามได้รับจากการพัฒนาระบบการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญายูพอฟ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินความพร้อมของไทย” นางอรมน กล่าว
สำหรับการเยือนเวียดนามครั้งนี้ แบ่งกิจกรรมได้เป็น 2 ส่วน คือ 1. การจัดสัมมนา ประชุมหารือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรของเวียดนาม เพื่อขอทราบประสบการณ์การพัฒนาระบบการคุ้มครองพันธุ์ พืชใหม่ และการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญายูพอฟ และ 2. การลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับเกษตรกร บริษัทพัฒนาเมล็ดพันธุ์ของเวียดนาม และเยี่ยมชมศูนย์ทดสอบพันธุ์พืช เพื่อขอทราบความเห็นต่อการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญายูพอฟ
ทั้งนี้ เดือนกันยายน 2561 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อร่วมกันสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรเรื่องการจัดการตลาดสินค้าเกษตร และการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งในปี 2562 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ คัดเลือกจังหวัดและสินค้าเกษตรใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ที่จะลงพื้นที่จัดสัมมนาให้ความรู้และคำแนะนำแก่เกษตรกร เรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงเอฟทีเอ เพื่อส่งออกสินค้าเกษตร รวมทั้งช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกรในการรับมือกับประเด็นทางด้านการค้าใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น
