“ท่านคล้ายคนนอนหลับ”จากปากนักศึกษาแพทย์ : ซาบซึ้งบุญคุณครูใหญ่”พ่อคูณ”

ครู-อาจารย์ หากมองในแง่สาขาอาชีพ คือบุคคลซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการสอนสั่งให้เหล่านักเรียน หรือลูกศิษย์มีวิชาความรู้ เพื่อไปหาเลี้ยงตนเอง สร้างอนาคตให้ประเทศก้าวไกล แต่ในชีวิตจริง

คำว่าครู ไม่ได้จำกัดอยู่ในกรอบของอาชีพเท่านั้น หากแต่จะเป็นใครก็ตามที่มีความเชี่ยวชาญในทักษะต่างๆ และสามารถเผยแพร่เนื้อหาคำสอนให้กับคนทั่วไปได้ปรับใช้ให้เป็นประโยชน์

หรือแม้แต่ “ครู-อาจารย์” ที่ไม่ได้มีชีวิต และอุทิศ “กาย” ให้เป็นความรู้กับอนาคตของชาติเหล่านั้น ที่เราเรียกพวกเขาว่า “ครูใหญ่-อาจารย์ใหญ่”

หนึ่งในนั้น คือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในสมณะศักดิ์ พระเทพวิทยาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระเกจิอาจารย์ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ แม้จะละสังขารไปแล้ว เป็นเวลากว่า 3 ปี แต่ชื่อและความดีที่สร้างไว้ ไม่มีใครลืม

Advertisement

กระทั่งในพินัยกรรมสุดท้าย ท่านยังแสดงเจตจำนงที่จะมอบร่างอุทิศกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาต่อไป โดยการนี้ ทางมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดพิธีตั้งแต่สวดอภิธรรม จนพิธีถวายพระเพลิงสรีรสังขารในวันที่ 29 มกราคม

โอกาสนี้เอง กลุ่มนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 3 (นศพ.) มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) ที่เป็นผู้แบกหีบศพไม้หอมของหลวงพ่อคูณในวันพิธี ซึ่งพวกเขาต่างรู้สึกโชคดีที่ได้มีส่วนร่วมในพิธีการนี้ได้เปิดเผยความรู้สึกให้ฟัง

นายทนุ หิรัญเกิด หัวหน้านักศึกษาฝ่ายฌาปนกิจ เล่าว่า รู้จักหลวงพ่อคูณมากตั้งแต่เด็กๆ เพราะแม่ได้เล่าให้ฟังว่าเป็นพระที่มีชื่อเสียงมากในภาคอีสาน แต่พอท่านมรณภาพก็รู้สึกเศร้าใจมาก กระทั่งเมื่อทราบข่าวพินัยกรรมที่ท่านบริจาคร่างให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อช่วง ม.ปลาย ก็ยิ่งกลายเป็นอีกแรงผลักดันที่ทำให้อยากเข้ามาเรียนแพทย์ที่นี่ เพราะจะได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาร่างท่าน บอกได้เลยว่านี่เป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น คือ เมื่ออาจารย์มาคัดเลือกขอตัวนศพ.ที่ได้เรียนกับร่างท่าน เพื่อช่วยเคลื่อนย้ายหีบศพในวันพิธีจึงรู้สึกตื่นเต้น ซาบซึ้งและภูมิใจอย่างที่สุด

นอกจากนี้ นศพ.ยังได้เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกที่จะได้มาเรียนทางสายวิชาชีพนี้ ว่าได้เตรียมพร้อมที่จะต้องเจอกับร่างมนุษย์จริงๆ อยู่แล้ว เมื่อได้เข้าห้องแล็บทดลองก็รู้สึกตกใจไม่ใช่น้อย เพราะในห้องจะเรียงรายไปด้วยครูใหญ่จำนวนหลายร่าง โดยอาจารย์ผู้สอนจะมอบคำแนะนำต่างๆ ก่อนเริ่มเรียน เป็นต้นว่า การวางพวงมาลัยขอขมา และสวดมนต์อุทิศส่วนบุญกุศลแก่ผู้ล่วงลับ พร้อมมีข้อห้ามไม่ให้ถ่ายรูปครูใหญ่ไปใช้ในทางอื่นที่ไม่ใช่การเรียน ต้องให้ความเคารพเช่นเดียวกันครูอาจารย์

Advertisement

นายก้องภพ จันทิม ได้สะท้อนถึงการเรียนการสอนในวิชา กายวิภาคศาสตร์ ที่ผู้เรียนทุกคนจะได้ลงมีดกรีดร่างครูใหญ่จริง เพื่อทำการศึกษาวิจัยและค้นคว้าระบบโครงสร้างอวัยวะของมนุษย์ ทั้งชายและหญิง โดยนักศึกษาจะแบ่งกลุ่มกัน 5-6 คน ต่อ 1 ร่างครูใหญ่ และมีอาจารย์ควบคุมดูแลมากกว่า 1 คนต่อคลาสเรียน

“เมื่อผมได้พบกับร่างครูใหญ่เป็นครั้งแรก ก็รู้สึกกลัว แต่กลัวจะสอบตกมากกว่า ถามว่าเคยสัมผัสจับต้องมั้ย ส่วนมากจะใช้นิ้วจิ้มหรือเอานิ้วชี้มากกว่า” ก้องภพบอกอย่างเป็นกันเอง และเล่าต่อว่า เหตุผลที่หลวงพ่อคูณ ได้เลือกบริจาคร่างให้กับมหาวิทยาลัยเราเพราะเป็นสถาบันสอนการแพทย์ที่เปิดรับบริจาคอาจารย์ใหญ่ ซึ่งที่อื่นไม่มี ส่วนหนึ่งก็เพราะมีพื้นที่ใหญ่และอุปกรณ์การแพทย์ครบเครื่อง ทั้งยังเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งแรกของภาคอีสาน และมีการเปิดสอนสาขาวิชาเฉพาะทางด้วย

ขณะที่นายคุณากร พนมนันทชัย นศพ.อีกคนที่ได้อยู่ในชั้นเรียนการศึกษาร่างหลวงพ่อคูณ เล่าถึงลักษณะของหลวงพ่อว่า “ท่านจะคล้ายกับคนนอนหลับ ยังมีความสดใหม่สมบูรณ์กว่าครูใหญ่ท่านอื่นๆ ที่แห้งและเป็นสีเหลืองซีดๆ น้ำตาล หรือดำแล้ว ส่วนรอยจุดสีชมพูที่คณบดีคณะแพทย์ฯ อ้างอิงนั้น ทางการแพทย์นับเป็นสัญญาณการมีชีวิต ซึ่งผมมีโอกาสได้เห็นครั้งเดียว โดยร่างของหลวงพ่อคูณจะมีอาจารย์ซึ่งชำนาญการมากกว่า เป็นผู้ลงมือผ่าเอง และให้นักศึกษาเข้าไปดู ซึ่งใช้ห้องเก็บสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ เป็นสถานที่ปฏิบัติการ”

“จุดประสงค์ที่ท่านมอบร่างมาใช้การเรียนนั้นก็เพื่อผลิตแพทย์ให้มีคุณภาพ และกลับไปต่อยอดพัฒนาการรักษาคนไข้ให้ได้มากที่สุด เพราะแพทย์คนหนึ่งสามารถรักษาคนไข้ได้ถึงหลักแสนทีเดียว” คุณากรบอก

ส่วน นายฉันทวัฒน์ กระจ่างวงศ์ อธิบายว่า “ในการเรียนที่ใช้ร่างพระครูใหญ่หลวงพ่อคูณนั้น เราได้เรียนเรื่องกล้ามเนื้อต่างๆ ทั้งใบหน้า ทรวงอก เห็นได้ว่าโครงสร้างท่านจะสวยกว่าครูใหญ่ท่านอื่น ส่วนที่ว่ากันว่า ร่างท่านมีสีอ่อนกว่านั้น อาจเป็นเพราะได้เก็บรักษาไว้ในโลงเย็นดีกว่า และมีกุญแจล็อกมิดชิด แต่ขั้นตอนกว่าที่จะนำมาเป็นครูใหญ่ให้เรียนได้ก็เพราะต้องใช้เวลาถึง 2 ปี”

อย่างไรก็ตาม นับแต่หลวงพ่อคูณได้บริจาคร่างให้กับคณะแพทย์ฯ มานานนับสิบปีแล้ว มียอดผู้ประสงค์บริจาคร่างเพิ่มมากขึ้นสูงสุดถึงหลายร้อยรายทีเดียว

โดยต่อจากนี้ ในวันพิธีฌาปนกิจสรีระสังขารหลวงพ่อคูณจริง นศพ.ก็จะได้เป็นผู้เข็นรถบรรทุกหีบไปส่งท่านเป็นครั้งสุดท้าย นับเป็นโอกาสที่น้อยคนนักจะได้ทำหน้าที่นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image