ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติเห็นชอบให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดทำสลากชุด สำหรับการขายให้ผู้ค้ารายย่อยจองซื้อผ่านธนาคากรุงไทย 57 ล้านใบ คิดเป็น 65% ของจำนวนสลาก 90 ล้านใบ เริ่มงวดวันงวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 ซึ่งทำรายการจองวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ และทำรายการซื้อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ผู้ค้ารายย่อยได้รับสลากคนละ 5 เล่ม จะมีสลากชุดเลขเหมือนกันให้ 200 ชุดใน 4 เล่ม เป็นเลขคละกัน ส่วนที่เหลืออีก 1 เล่มจะเป็นสลากใบคละเลขเช่นกัน โดยสลากแบบใหม่นี้จะไม่เรียงเลข มีสูตรในการจัดทำสลากชุดคือ 2-2-1 คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว สำหรับชุด 2 ใบแรก มีเลข 6 หลักเหมือนกัน จำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ และจะมีเลขหมายเลข 6 หลักเหมือนกัน ซึ่งไม่ซ้ำกับชุดแรก อีกจำนวน 100 ชุด ชุดละ 2 ใบ ส่วนอีก 1 เล่ม จำนวน 100 ใบ จะมีเลขที่ไม่เหมือนกับ 4 เล่นแรก ทำให้ผู้ค้ารายย่อยแต่ละรายได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ชุดละ 2 ใบ โดยสามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้
“การดำเนินการดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคาในระยะที่ 3 ซึ่งการพิมพ์สลากแบบคละแบบทำให้นำสลากมาเรียงกันเป็นชุดใหญ่ยากขึ้น ดังนั้นโอกาสของการถูกรางวัล 2 ใบ 12 ล้านบาท จะมากกว่าโอกาสการถูกรางวัล ชุดใหญ่ 10 ใบ 15 ใบ หรือ 30 ใบ มูลค่ารางวัลรวม 60 ล้านบาท 90 ล้านบาท 180 ล้านบาทน้อยลงไป เพราะโอกาสที่ยี่ปั๊วจะนำสลากมาชนกันอัตรา 1 ต่อ 1 แสน ซึ่งยากมาก”นายธนวรรธน์กล่าว
นายธนวรรธน์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวเริ่มในระบบผู้ค้ารายย่อยก่อน ส่วนสลากโควต้า 33 ล้านฉบับ หรือ 35% ของจำนวนสลากทั้งหมด ยังพิมพ์แบบเรียงเบอร์เหมือนเดิม โดยจะขอติดตามมาตรการระยะที่ 3 เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะพิจารณาว่าจะทำกับระบบโควต้าด้วยหรือไม่
นายธนวรรธน์กว่าว่า ทั้งนี้หวังว่ามาตรการดังกล่าวทำให้สลากใบกลับมาขายแบบใบเหมือนเดิม และมีราคาสลากลดลงเหลือ 80 บาทไม่น้อยกว่า 80% จากขณะนี้สลากถูกนำไปรวมชุดมากขึ้น โดยกำหนดให้สลากชุดที่ทำออกมาต้องขายราคาใบละ 80 บาท หรือชุดละ 160 บาท
พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สลากถูกนำไปรวมชุดเพราะระบบการพิมพ์แบบเรียงเบอร์ แต่การพิมพ์ระบบใหม่พิมพ์แบบคละเลข ทำให้การนำไปรวมชุดกันใหม่ยากขึ้น เพราะจะคละตัวเลขภายในเล่มเดียวกัน และการจัดจำหน่ายเป็นการกระจายไปทั่วประเทศ โดยจะพิมพ์สีที่แตกต่างกันเพื่อเป็นจุดสังเกต
“สลากที่ผู้ค้ารายย่อยจะได้รับจะมีเลขที่เหมือนกัน 2 ชุด โดยเป็นเลขที่คละแบบกัน จากเดิมพิมพ์ 000000-999999เหมือนกันทุกเล่ม แต่ของใหม่ใช้วิธีการสุ่มเลขของแต่ละเล่มและคละเลขกัน ดังนั้นการนำเลขไปชนกันจะยากมากขึ้น โดยในการพิมพ์แต่ละเล่มจะมีการติดตามว่าสลากดังกล่าวเป็นของใคร เพื่อเวลาทำผิดจะได้ตามมาลงโทษได้ทันที”พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
