ปัจจัยลบรุม Q1 หุ้นหล่นตุ๊บ ก่อนทะยาน Q3 ไทยพาณิชย์คาด 1,800 จุด (มีคลิป)

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นในปีนี้ เนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดในปี 2561 มาแล้ว โดยปัจจัยกระตุ้นให้หุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นคือ เรื่องการเลือกตั้ง แต่ยังต้องติดตามผลหลังการเลือกตั้งที่มีกติกาใหม่และมีพรรคการเมืองเกิดใหม่หลายพรรค ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องติดตามสถานการณ์หลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จ ทำให้มองว่าเรื่องเลือกตั้งไม่น่ากังวลมากนัก แต่ควรดูเรื่องนโยบายของพรรครัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารงานต่อว่า มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 2 จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากการประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ถึงแม้ว่าจะเกิดการทำกำไรระหว่างทาง แต่เชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยจะทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ที่ 1,800 จุด โดยมองว่าปีนี้ภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยยังคงให้ผลตอบแทนดีกว่าปีก่อน ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 10-15%

นายสุกิจ กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1 ต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศ ทั้งเรื่องเบร็กซิทในกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ที่คาดว่าต้องขยายเวลาในการหาข้อสรุปออกไปอีก เนื่องจากการตกลงอาจค่อนข้างยาก รวมถึงบทสรุปของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงการชัตดาวน์หน่วยงานราชการในสหรัฐฯที่ยังยืดเยื้ออยู่ อีกทั้งยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ทำให้คาดว่าดัชนีหุ้นในไตรมาสนี้จะมีราคาต่ำที่สุด โดยหากปัจจัยทั้งหมดไม่คลี่คลายหรือได้ข้อยุติตามที่คาดหวังไว้ คาดว่าดัชนีจะทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,500-1,550 จุด ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากฐานปีก่อนที่ทำไว้สูงอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับลดลง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนกำไรบริษัทบจ.ใหม่ จากเดิมที่คาดไว้ว่าโต 5-8%

“คาดภาวะเศรษฐกิจปีนี้โต 3.8% ปรับคาดการณ์ลดลงจากปี 2561 ที่ 4.2% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนที่ทำฐานปีที่ผ่านมาไว้สูง แต่ถือว่ายังไม่ถึงขึ้นขั้นวิกฤติ ในด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม กองทุน และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในส่วนของแบงก์ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงจะขยายตัว 6% จากเดิม 9% ในขณะที่สินค้าอิเลคทรอนิกส์มีความต้องการลดลงจากเศรษฐกิจโลกที่หดตัว” นายสุกิจ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image