4รมต.ทิ้งเก้าอี้ นำ‘พปชร.’สู้เลือกตั้ง

หมายเหตุ – นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขาธิการ พปชร. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและรองหัวหน้าพปชร. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษก พปชร. เปิดใจภายหลังลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อทำงานการเมืองเต็มตัว

อุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

การที่พวกเราปฏิบัติตัวตามนี้ อยากจะให้ถือว่าเป็นแนวความคิดของพวกเรา สะท้อนเจตนารมณ์และความเชื่อของพวกเราตั้งแต่ต้นว่าทำอย่างโปร่งใส ทำงานการเมืองอย่างมีเป้าหมาย ก้าวสู่การเมืองด้วยความมั่นใจ ไม่ได้เอาการเมืองนำ แต่ทำงานการเมืองโดยเอาประโยชน์ของประเทศชาติ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ภารกิจเสร็จสิ้นไปได้พอสมควร ถึงมาทำงานการเมือง การเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วันนี้ นายกฯรับทราบมาตั้งแต่ต้นว่าเราจะเดินแนวทางนี้ นายกฯได้อวยพรขอให้สิ่งที่เรามุ่งหวังจะทำงานการเมืองนั้นให้ประสบความสำเร็จและคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ส่วนงานในตำแหน่งรัฐมนตรี ผมตั้งใจจะทำเสร็จครบถ้วน หลังจากนี้อาจจะมีการชี้แจงต่อไปอีกบ้าง ส่วนภารกิจไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พวกผมยกเลิกไปแล้ว สำหรับการมอบนโยบายสุดท้ายต่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำนายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้บริหารทุกคนทำงานหลังจากนี้อย่างเต็มความสามารถ สื่อสารกับประชาชนให้มาก เพราะกระทรวงอุตสาหกรรมทำงานหนักแต่ยังขาดสื่อสารอยู่มาก สิ่งที่ข้าราชการควรดำเนินการต่อ ไม่ต้องคิดว่าใครจะเข้ามาบริหารประเทศ คือ การผลักดันอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมาย และโรงงาน 4.0 หรือแฟคตอรี 4.0 เพราะทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์กับประเทศ
วันนี้ถือเป็นจุดหักเหของประเทศไทยที่เศรษฐกิจต้องเปลี่ยน สังคมต้องเปลี่ยน ประเทศไทยถึงจะก้าวทันโลก กระทรวงอุตสาหกรรมมีบทบาทในการผลักดันประเทศ สามารถสร้างงาน ลดความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศไทย ที่ผ่านมารัฐบาลได้วางรากฐานอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีกิจกรรมในการขับเคลื่อนมากนัก
แต่ปัจจุบันมีหลายเรื่องที่คืบหน้าไปมาก คนไทยรู้จักอุตสาหกรรม 4.0 ประเทศไทย 4.0 โดยเรื่องสำคัญอย่างอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ขับเคลื่อนประเทศก็ขยับไปมาก หรือประเด็นมลพิษที่กำลังเป็นที่กังวลของคนไทย ก็ได้เน้นย้ำให้กระทรวงดูแลโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยมลพิษ ขณะเดียวกันจะยกระดับไปสู่โรงงาน 4.0 หรือแฟคตอรี 4.0 นำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดของเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมของประเทศด้วย นอกจากนี้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะต้องมีบทบาทในการสนับสนุนคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบ ต้องสร้างอาชีพให้ชุมชน แรงงานที่เข้าสู่วัยเกษียณ
ในการขจัดมลพิษอีกแนวทางหนึ่งที่ได้เน้นย้ำคือ การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้มุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อย่างเต็มรูปแบบ เร็วขึ้นจากแผนปัจจุบันที่เดินอยู่ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกร่างอีวีให้เป็นรูปธรรม ลงทุนเร็วขึ้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยมุ่งสู่ 4.0 และหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ต้องเร่งสนับสนุนคือ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ต้องเร่งผลักดันให้เกิดรูปธรรม สนับสนุนให้โรงงานในไทยใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในการผลิต การขนส่ง สนับสนุนให้มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เมื่อเกิดผู้ใช้ทั้งโรงงาน และบุคลากรมากพอ การลงทุุนตั้งโรงงานผลิตหุ่นยนต์ก็ตามมา
ในการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 กระทรวงและภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทขนาดใหญ่ และสถาบันการศึกษา จะร่วมมือกันในการพัฒนานักศึกษาภาคอาชีวะให้มีความเชี่ยวชาญในหลายสาขาเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ที่ภาคเอกชนมีการเรียกร้องมานานว่าไทยขาดแคลนแรงงานอาชีวะ การสนับสนุนนี้จะมีแรงจูงใจให้กับผู้เรียน ทั้งนี้จะมีการจัดทำแพลตฟอร์มพัฒนาอาชีวะแห่งชาติ ร่วมมือกับญี่ปุ่น ยุโรป เพื่อพัฒนาร่วมกัน
ในด้านการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และผู้ประกอบการรายใหม่
(สตาร์ตอัพ) ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งอินโนสเปซไทยแลนด์ รูปแบบความร่วมมือรัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนสตาร์ตอัพ ขณะที่การพัฒนาเอสเอ็มอีก็มีมาตรการดูแลอย่างต่อเนื่อง มีกองทุนสนับสนุนทั้งด้านสินเชื่อ และการพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สามารถพัฒนาเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพให้มีมูลค่าเพิ่มประมาณ 27,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ไอทีซี) ทั่วประเทศ 102 แห่ง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะช่วยพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ มีเครื่องมือ เครื่องจักรให้ทดลองให้ เพื่อเอสเอ็มอีไทยแข็งแรง
อยากให้กระทรวงอุตสาหกรรมปรับแนวคิดในการนำเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเข้าพื้นที่ เพื่อพัฒนาชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่แค่การนำคนเข้าไป เพื่อให้ชุมชนได้ประโยชน์ เศรษฐกิจในพื้นที่ขยายตัว ขณะเดียวกันการพัฒนาอุตสาหกรรมก็ต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการด้วย ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างผลักดันการยกเว้นการต่ออายุใบอนุญาตโรงงาน (ร.ง.4) การปรับปรุงมาตรฐานอุตสาหกรรมในสินค้าต่างๆ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ
สำหรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(อีอีซี) ที่ผมเป็นประธานคณะกรรมการบริหารอีอีซีอยูู่นั้น หลังจากนี้นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการอีอีซี จะหารือในที่ประชุมอีอีซีที่มีนายกฯเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนการทำงานต่อไปไม่มีปัญหาเพราะทุกโครงการที่ดำเนินการโดยเฉพาะ 5 โครงสร้างพื้นฐานอีอีซีมีกระบวนการผลักดันที่ชัดเจน ได้เน้นย้ำนายพสุให้ทำงานร่วมกับสำนักงานอีอีซีอย่างเต็มความสามารถ อีอีซีจะต้องเดินหน้าทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย การสร้างเมือง และการพัฒนาบุคลากรโดยเฉพาะแรงงานอาชีวะที่พื้นที่ต้องการ
อยากให้ทุกเรื่องเดินหน้าต่อไป อาทิ การพัฒนาเอสเอ็มอี โดยเฉพาะไมโครเอสเอ็มอีให้มีการพัฒนาศักยภาพ สร้างรายได้ที่มั่นคง รวมทั้งการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบปัญหา ให้พลิกฟื้นธุรกิจ กลับมาประกอบกิจการสร้างกำไรได้ ส่วนการจะให้คะแนนตัวเองนั้นคงไม่ เพราะไม่ใช่ประเด็นที่ตนให้ความสำคัญ

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

Advertisement

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการทำงาน จะใช้เวลาจัดการงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ การลาออกครั้งนี้เป็นบรรทัดฐานใหม่ทางการเมือง ที่ผ่านมาไม่มีรัฐมนตรีคนไหนลาออกจากตำแหน่งระหว่างที่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้ง รัฐบาลเดิมที่อยู่ระหว่างการเลือกตั้งจะต้องรักษาการจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่อยากเบียดบังเวลาราชการที่บางเวลาอาจจะทำงานไม่ได้เต็มที่ จึงตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำงานการเมือง โดยไม่ได้หวังผลทางการเมืองแต่อย่างใด
เมื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัวแล้ว พวกเรามีความมั่นใจ แต่ไม่ได้มั่นใจในตัวของพวกเราทั้ง 4 คน เพราะเรามั่นใจว่าประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง ด้วยประสบการณ์ของพวกเราและพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว ส่วนจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ขอให้รอดูผลการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะเราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน พรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่เต็มความสามารถ หากได้รับความไว้วางใจก็จะทำหน้าที่นั้นต่อไป
ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ลำบากใจอยู่พอสมควร ไม่สามารถตอบคำถามให้ใครรับทราบได้ว่าจะดำรงตำแหน่งถึงเมื่อไหร่ ต้องทำตามหน้าที่หลายอย่างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมคิดว่าเรื่องสำคัญในการเล่นการเมือง คือ ต้องมีความรับผิดชอบ จึงตั้งใจที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบให้เสร็จสิ้น ในช่วงก่อนหน้านี้มีปัญหาในเรื่องของสงครามการค้า ที่ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล จึงเป็นเหตุผลที่ผมต้องดำรงตำแหน่งเพื่อร่วมกันแก้ไขในสถานการณ์ดังกล่าวให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หรือการเร่งรัดงาน ที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลปัจจุบันก่อนที่จะมีรัฐบาลใหม่เกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซที่จะผลักดันกระทรวงพาณิชย์ไปสู่ยุคใหม่ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเริ่มผลักดันสู่โมเดลแก้ความยากจนโดยใช้อีคอมเมิร์ซ เรื่องนี้ได้มีการริเริ่มไปแล้ว
ยังได้มีการพัฒนาในส่วนของร้านค้าปลีกที่จะทำอย่างไรให้การค้าแบบดั้งเดิมสามารถอยู่ได้ ได้มีการนำเสนอรูปแบบการดำเนินการมาโดยตลอด ในช่วงที่ผ่านมาได้เห็นแล้วว่า การค้าขายในแบบดั้งเดิม อาทิ ร้านโชห่วยและร้านค้าปลีก มีแนวโน้มจะอยู่รอด หลังจากนี้ ถ้ากระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อเพื่อสร้างความแข็งแรง คาดว่าจะสู้กับร้านค้าในยุคใหม่ได้ เป็นภาระที่เร่งทำแล้วเสร็จไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว หรือจะเป็นเรื่องร้อนอย่างการผลักดันเรื่องค่ารักษาพยาบาลเป็นสินค้าควบคุม กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดตั้ง โดยมี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการดูแลยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ร่วมกับกรมการค้าภายในในการบริหารงานร่วมกัน
ส่วนเรื่องของประเด็นสิทธิบัตรกัญชา พยายามปลดล็อกความซับซ้อนของปัญหา และถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบว่าอาจมีนอกมีในในการดำเนินการ ขณะนี้สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่ากระทรวงพาณิชย์ทำงานด้วยความซื่อตรง เห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ไม่ได้ย่อท้อต่อเสียวิพากษ์วิจารณ์ มองว่าเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของประเทศไทยในการใช้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคตได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปลดล็อกเพราะมีหลายกฎหมายที่ต้องระวัง จึงต้องมีการแลกเปลี่ยนและหารือร่วมกันตลอดเวลา จนล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา มาตรา 44 ออกมาโดยจะยกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาในเรื่องมาตราที่ 9 (5) ที่เป็นตัวที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย จึงเป็นเหตุให้สามารถปลดล็อกในเรื่องนี้ได้ เรื่องนี้กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถทำตามความพอใจของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้
ขอระบายความในใจว่าที่ไม่ได้พูดออกมาชัดเจนทำไมถึงไม่กล้าพูด ผมมองว่าความกล้าควรกล้าอย่างรอบคอบ และไม่ได้ปรารถนาให้เกิดความเสียหายตามมา เราได้ใช้เวลาในการหารือเรื่องนี้ทุกวันในการแก้ปัญหา ที่เร่งรัดการดำเนินการดังกล่าวเพราะรู้ว่าหลังจากนี้ยังมีหน้าที่ที่สำคัญรออยู่ ไม่อยากให้งานในกระทรวงเป็นภาระของผู้บริหารต่อไปจึงต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้เสร็จเสียก่อน ทั้งนี้ พอมี ม.44 ออกมา จึงคิดว่าเป็นเวลาที่สมควรแล้วที่จะลาออกจากตำแหน่ง
ตลอดเวลา 2 ปีในการทำงาน สิ่งที่พยายามเข้ามาทุ่มเททำมากที่สุด คือในเรื่องเศรษฐกิจฐานรากเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาใหญ่ มีเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่ทางกระทรวงดำเนินการไป อาทิ การริเริ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเชื่อมโยงบัตรสวัสดิการเข้าสู่ฐานรากโดยกลไกของร้านธงฟ้าประชารัฐ และในเรื่องของแอพพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ เพื่อก้าวไปสู่การผลักดันเรื่องสินค้าชุมชนและยกระดับร้านค้าเหล่านี้ให้เป็นร้านโชห่วยในอนาคตที่จะผลักดันเรื่องอีคอมเมิร์ซ เป็นกระบวนการที่สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ถ้าทำได้ตามที่เราได้วางแผนไว้ก็จะเป็นทางออกที่ดีที่จะถูกดำเนินการต่อไป
หลังจากนี้คาดว่าแผนงานที่จัดเตรียมไว้จะเดินหน้าต่อไปได้ มั่นใจในทีมผู้บริหารที่เหลืออยู่ ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีแทน เป็นการตัดสินใจของนายกฯ แต่ระหว่างนี้ผู้บริหารที่เหลืออยู่จะสามารถเดินหน้าแผนงานต่อไปได้ตามเป้าหมายที่คาดไว้ ผมยังแอบเสียดายที่ดำเนินงานในช่วงสั้นๆ เท่านั้น ได้ฝากปลัดฯในการพัฒนาบุคลากรให้รู้เท่าทันโลก เพราะยังมีอีกหลายหน่วยงานในกระทรวงที่ยังรู้ไม่เท่าทันกัน
การอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าอยู่ด้วยความสุขถึงแม้ว่าจะไม่เคยทำงานและรู้จักข้าราชการที่นี่มาก่อน แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากพี่น้องข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องงานตลอด 2 ปี การลาออกไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการอาลัยอาวรณ์ที่จะต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่รู้สึกว่าตลอดที่ผ่านมาได้รับความอบอุ่นและดีใจที่ได้มาทำงานที่นี่ ยังมีความผูกพันกับที่นี่ ยังอยากเห็นกระทรวงพาณิชย์ที่มีความสำคัญมากๆ กับการบริหารประเทศโดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน และเป็นที่พึ่งที่สำคัญของพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ ที่เข้มแข็งเช่นนี้ต่อไป
ตั้งใจทำการเมืองเพราะอยากเห็นความต่อเนื่องของประเทศ และไม่อยากเห็นประเทศถอยกลับไปสู่การทำงานแบบต้องมีปัญหากัน ไม่อยากเห็นการเอาชนะทางการเมืองแบบสุดโต่ง นั่นคือความตั้งใจ และขอพูดตรงๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจมาทำงานการเมือง แต่ว่าตัดสินใจเพราะเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และตลอดเวลาที่ผมเป็นรัฐมนตรีมา ก็ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองและกระทรวง อยากขอให้ช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนผ่านในประเทศตรงนี้ โดยการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด

กอบศักดิ์ ภูตระกูล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

หลังจากนี้ผมก็เป็นพี่กอบอย่างเต็มตัว วันนี้จึงมาลาศาลพระภูมิ ศาลตายาย และพระพรหมเจ้าที่ เพื่อขอบคุณที่ได้ปกปักรักษามาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา หากจำได้ 1 ปีที่แล้ว เคยมาเจอกันตรงนี้และถามผมว่าหนักใจหรือไม่ และคิดว่าจะทำงานต่างๆ ได้หรือไม่ ขอตอบว่า 1 ปีที่ผ่านมา สามารถทำโครงการต่างๆ ให้ประชาชนได้จำนวนมาก หลายโครงการสำเร็จไปแล้ว บางโครงการอยู่ที่การพิจารณาของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลายโครงการเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชน ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ผมภาคภูมิใจที่หลายโครงการมีพี่น้องประชาชนเป็นล้านคนได้รับประโยชน์จากเรา ถือเป็นปีหนึ่งที่ผมภาคภูมิใจและดีใจที่ได้ทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมาก
ในขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ก็จะสานงานต่อไป ดังนั้น จึงไม่กังวลใจคิดว่าหลายโครงการก็ไปด้วยดี รวมถึงอีอีซีก็ไปได้ดีเช่นกัน จึงถือเป็นปีที่ได้เรียนรู้เยอะ และตื่นเต้นทั้งปี ขอขอบคุณนักข่าวที่เมตตาอยู่เสมอมา ช่วยดูแลปกป้องพอๆ กับศาลตายาย และถือว่าที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มีศาลพระภูมิและศาลตายายช่วยดูแล และทำให้งานต่างๆ ราบรื่น
หลังจากนี้จะไม่มีวันหยุด ไม่มีแปดโมงครึ่ง ไม่มีสี่โมงครึ่งอีกต่อไป ตั้งแต่เช้าจรดเย็นถึงเที่ยงคืนก็จะไปบุกทุกที่ทั่วไทย หลังจากนี้ทั้ง 4 รัฐมนตรีก็พร้อม วันนี้เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เราไม่เป็นรัฐมนตรีแล้ว เราก็เดินหน้าเต็มที่ หากจะตามหาผมไปเจอได้ที่พรรคตั้งแต่เช้าและคงอยู่ถึงเย็น ขณะที่ยุทธศาสตร์พรรค มีกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยหมดแล้ว รอในวันที่ 30 มกราคม จะเปิดตัว ส.ส.กทม. 30 คน รวมถึงนโยบาย กทม.5.0 ที่เราภาคภูมิใจจะนำเสนอ ขณะเดียวกันตัวของ ส.ส. 350 คน ก็พร้อมอีกไม่นานก็จะเปิดตัว หลังจากนั้นจะมีนโยบายตามมา ทั้งสังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ ก็จะมีรายละเอียดของนโยบายตามมาหลังจากนั้นในวันเปิดตัว ส.ส.ทั้ง 350 คน
ส่วนเรื่องการจะให้ใครมาปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีแทนนั้น นายกฯจะตัดสินใจเอง ในวันนี้
นายกฯยังขอบคุณที่ช่วยมาทำงานและได้ขอให้โชคดี ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี และส่วนตัวไม่ได้วางตัวใครไว้เพื่อสานงานต่อ เพราะคิดว่าตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีอีกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ขณะที่หน่วยงานที่ผมดูแลก็มีเลขาฯและผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ได้คุยงานเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงคิดว่า ไปด้วยความสบายใจที่งานต่างๆ สำเร็จไปได้ด้วยดี
หลังจากลาออกแล้ว เราจะบุกเต็มที่เลย เจอกันตามเวทีต่างๆ และที่พรรค ผมพร้อมเต็มที่เลย และหลังจากนี้จะไปคุยกับพี่น้องประชาชนเพื่อเอานโยบายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้นโยบายที่ดีที่สุด สำหรับการเป็นรัฐบาลหน้า ทั้งนี้ 4 รัฐมนตรีจะแยกย้ายกันในเวทีต่างๆ แต่บางเวทีอาจปรากฏตัวพร้อมกัน

Advertisement

สุวิทย์ เมษินทรีย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การลาออกของผมจะมีผลในวันที่ 30 มกราคมนี้ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตั้งใครมาทำหน้าที่แทนในช่วง 3-4 เดือนที่จะได้รัฐบาลใหม่ คงเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี ส่วนผมต้องไปทำงานการเมือง ทำหน้าที่ด้านนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลาออก ส่วนจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล หรือรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ อีกครั้งหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมเป็นห่วงคือเรื่องของกระทรวงใหม่ จริงๆ แล้วพ้นจากหน้าที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไปแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของ สนช.จะพิจารณากฎหมายลูกอีก 4-5 ฉบับ อยากให้เสร็จสิ้นในรัฐบาลนี้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ ผมไม่ทราบ แต่ สนช.จะมีเวลาอยู่จนถึงเดือนมีนาคมนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้พิจารณาให้ทัน เพราะเรื่องกระทรวงใหม่ สำคัญมากต่อการพัฒนาประเทศ เป็นการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจสู่เศรษฐกิจฐานรากและนวัตกรรม
ส่วนงานที่ผมภูมิใจ คือ นโยบายสร้างคน แก้จน เสริมแกร่ง และวิทย์สู่ภูมิภาค ที่ได้ทำจนสำเร็จมีการวางรากฐานไว้อย่างดี จนมีพรรคการเมืองบางพรรคนำนโยบายของตนไปใช้หาเสียงแต่เปลี่ยนจากสร้างคน แก้จน เสริมแกร่ง เป็นแก้จน สร้างคน สร้างชาติ อยากบอกว่าขอให้ทำได้สำเร็จแล้วกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image