เมื่อวันที่ 30 มกราคม นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.43 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากช่วงสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยในคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ จากแรงกดดันเรื่องเบร็กซิทและสงครามการค้าเป็นหลัก ซึ่งล่าสุด สภาอังกฤษลงมติ สนับสนุนให้ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กลับไปเจรจากับสหภาพยุโรปกรณีเบร็กซิทกับยุโรปอีกครั้งส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงทันที เนื่องจากตลาดเชื่อว่าฝั่งยุโรปจะไม่ยอมเปิดโต๊ะเจรจากับอังกฤษ และในท้ายที่สุดอาจส่งผลให้อังกฤษต้องออกจากสหภาพยุโรป หลังจบไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจอังกฤษ ยุโรป และทั่วโลก
นายจิติพล กล่าวว่า ขณะเดียวกัน แม้ฝั่งสหรัฐและจีนจะมีการเจรจาการค้ากันอยู่ แต่การที่ทางการสหรัฐประกาศว่า หัวเว่ย บริษัทในธุรกิจสื่อสารรายใหญ่ของจีนละเมิดกฏหมายสหรัฐ ก็ส่งผลให้ตลาดเชื่อว่าการเจรจาดังกล่าว จะไม่สามารถนำไปสู่บทสรุปที่ดีขึ้นได้ ความกังวลส่งผลให้ตลาดอยู่ในภาวะสับสน บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงมาที่ระดับ 2.71% ขณะที่หุ้นสหรัฐ นำโดยดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.15% ทั้งที่ราคาน้ำมันเบรนท์จะปรับตัวขึ้น 2.3%
“ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้เห็นได้ชัดว่าปรับตัวแข็งค่ากับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น เพราะตลาดยังเชื่อมั่นในมูลค่าของค่าเงินบาทอยู่ ขณะที่ระหว่างวันจะเคลื่อนไหวไม่มาก เพราะมีทั้งแรงซื้อของผู้นำเข้า และแรงขายของผู้ส่งออกเป็นกรอบอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่าง ช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เชื่อว่าตลาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าเงินบาทแข็งค่าได้ เมื่อจบการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ และตัวเลขการว่างงานในสหรัฐดีตามคาดในคืนวันศุกร์ คาดกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.42-31.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ” นายจิติพล กล่าว
เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว
