กลุ่มเซ็นทรัลทุ่ม6พันลบ.ลงทุนแกร็บไทย บุกO2O ขยายฐานลูกค้าร่วมกัน เน้นอาหาร-เดินทาง-ขนส่ง

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ราวมมือเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจกับ แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ (Grab) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ ทู ออฟไลน์(O2O) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลงทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นใน แกร็บ ประเทศไทย แบบไม่มีอำนาจควบคุมในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ โดยจะร่วมมือกันให้บริการส่งอาหาร จากร้านค้าและแบรนด์ในเครือเซ็นทรัล รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัลที่มีอยู่กว่า 1 หมื่นราย ผ่านแกร็บฟู้ดที่เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างความหลากหลายให้ลูกค้า บริการโลจิสติกส์ โดยการส่งพัสดุออนดีมานด์และส่งพัสดุด่วนสำหรับธุรกิจในเครือเซ็นทรัลและร้านค้าพันธมิตร ผ่านบริการแกร็บเอ็กซ์เพรส รวมทั้ง การเดินทาง ที่จะมีความสะดวกและปลอดภัยทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว กลุ่มลูกค้าคนไทย ที่ต้องการเดินทางมาศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมในเครือกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมสิทธิพิเศษ

“กลุ่มเซ็นทรัลมีการพัฒนาศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้ามากว่า 70 ปี ปัจจุบันครอบคลุมเกือบทั้งประเทศไทย ถือเป็นรูปแบบกายภาพที่เข้าถึงจับต้องได้ (ฟิสิเคิล แพลตฟอร์ม) ทำให้ลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางมายังได้ในเวลา 30 นาที แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และความสามารถของแกร็บที่เป็นออนไลน์ ทู ออฟไลน์ แพลตฟอร์ม จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลไปหาลูกค้าได้ภายใน 30 นาทีเช่นกัน เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่เดินหน้าเป็นดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าทุกอย่างในเครือเซ็นทรัลผ่านแกร็บได้ พร้อมทั้งมีบริการจัดส่งถึงบ้าน ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นผู้เล่นหลักในภาคบริการของประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยที่ก่อให้เกิดการจ้างงาน การบริโภคขยายตัว ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ในเครือมาจากในประเทศถึง 90% ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเติบโตได้ และการร่วมมือการครั้งนี้ตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 ” นายทศ กล่าว

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) ไทยปี 2562 คาดว่าจะขยายตัว 3.5-4.0%  สำหรับภาคบริการคาดว่าจะขยายตัวได้ทั้งจากกำลังซื้อในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่องโดยในปีที่ผ่านอยู่ที่กว่า 40 ล้านคน ซึ่งปีนี้ก็น่าจะขยายตัวเพิ่มอีกโดยช่วงนี้บรรยากาศกลับมาคึกคักจากเทศกาลตรุษจีนและวาไลนไทน์ สำหรับปีนี้คาดว่ายอดขายของกลุ่มเซ็นทรัลเติบโตต่อเนื่องที่ 12-13% ในปีนี้ ทั้งนี้กลุ่มเซ็นทรัลมีการลงทุนเฉลี่ยปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท และมองหาการลงทุนใหม่ๆ เมื่อมีโอกาส โดยการลงทุนในแกร็บทำให้กลุ่มเซ็นทรัลสามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้ทุกช่องทางและช่วยให้ฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และผลักดันยอดขายได้ ส่วนผลกระทบจากฝุ่นละออก PM 2.5 มองว่าทำให้เกผลกระทบต่อสุขภาพซึ่งภาครัฐควรมีมาตรการจัดการออกมาเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม พบว่ายอดขายสินค้าที่เกี่ยวเนื่องปรับดีขึ้นตามความต้องการ

นายธวินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บต้องการลงทุนระยะยาวในประเทศไทยจึงมีการขยายการลงทุนและการให้บริการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั้งการเดินทาง การขนส่งอาหารและสินค้า รวมทั้งการขยายด้านธุรกิจเพย์เม้นต์  โดยธุรกิจของแกร็บทำให้ผู้ค้ารายย่อยและผู้ขับขี่ของแกร็บสามารถสร้างรายได้ได้เพิ่มมากขึ้นเป็นทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น สำหรับความร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล เฟสแรกสามารถสั่งซื้ออาหารจากแอพลิเคชั่นของแกร็บได้แล้ว เฟสต่อไปจะสามารถซื้อสินค้าที่ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ตและเครือเซ็นทรัล รวมทั้งพัฒนาอำนวยความสะดวกการเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า โรงแรมในเครือเซ็นทรัลต่อไป นอกจากนี้ แกร็บจะยังมีการจังหวัดและพื้นที่ให้บริการเพิ่มมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างการเติบโตของธุรกิจต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image