กสทช.-จุฬาฯ ตั้งศูนย์ทดสอบ 5G สร้างยูสเคสนำร่อง สู่การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี

พลเอกสุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยในพิธีเปิดศูนย์ 5G เอไอ/ไอโอที อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ณ อาคารเจริญวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ศูนย์ 5G เอไอ/ไอโอที อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ นี้ เป็นสิ่งยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกันและกันหลายภาคส่วน ทั้งในภาคการศึกษาที่มีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่น สามารถสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ และพัฒนาเทคโนโลยี 5G ให้สามารถเกิดขึ้นจริงในปี 2563 และสามารถกระตุ้นให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันและร่วมมือไปพร้อมกับประเทศอื่นๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ  

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า หลังจาก สำนักงาน กสทช. ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดตั้งศูนย์ทดสอบ 5G ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเวลา 2 ปี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ขณะนี้ สำนักงาน กสทช. และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ 5G เอไอ/ไอโอที อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ 5G ที่มีการติดตั้งและดูแลอุปกรณ์สถานีฐานของโครงข่าย 5G โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์กลางการอบรมให้ความรู้หรือศูนย์สาธิตการดูงานด้าน 5G เอไอ/ไอโอที ในระดับนานาชาติ ตามแนวนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติผลักดันประเทศไทยเข้าสู่เทคโนโลยี 5G

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือในระยะแรกจะมีการตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G ในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการติดตั้งสถานีฐาน ณ อาคารวิศวฯ 100 ปี เพื่อรองรับการให้บริการครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้ความถี่ย่าน 26.5 – 27.5 กิกะเฮิรตซ์ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ 5G เอไอ/ไอโอที อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ซึ่งในระยะถัดไปจะมีการติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายศูนย์กลาง ที่ชั้น 9 อาคารวิศวฯ 100 ปี  โดยติดตั้งสถานีฐานในระยะที่ 2 จะให้ครอบคลุมพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งหมด โดยที่สำนักงาน กสทช. จะอำนวยความสะดวกในการนำเข้าอุปกรณ์และการอนุญาตคลื่นความถี่สำหรับทดลองทดสอบ

ทั้งนี้ ตัวอย่างการทดลองทดสอบผ่านการใช้เทคโนโลยี 5G ได้แก่ การพัฒนาการขนส่งด้วยระบบ 5G เช่น การพัฒนาต้นแบบรถยนต์ขับเคลื่อนได้เองอัตโนมัติ, ติดตั้งกล้องไร้สาย ภายในและภายนอกรถบัส ติดตั้งเซนเซอร์วัดสภาพแวดล้อม เป็นต้น ระบบโรงพยาบาอัจฉริยะ และการสาธารณสุขทางไกล รวมถึงการทดสอบระบบการใช้งานเสาอัจฉริยะยุคหน้า 

Advertisement

“ความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กสทช. และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมการให้บริการโทรคมนาคม เพื่อเป็นการวางรากฐานที่เข้มแข็ง และรองรับการเปลี่ยนแปลงในการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่เทคโนโลยี 5G ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า เทคโนโลยี 5G จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษาพยาบาลทางไกล ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนได้” นายฐากร กล่าว

ศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ศูนย์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และองค์ความรู้ในการกำกับดูแลและนโยบายส่งเสริมให้เกิดบริการ 5G ตลอดจนพัฒนาบุคลากรให้แก่ประเทศ โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศ โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะถือเป็นต้นแบบของเมืองแห่งอนาคตที่พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาคมจุฬาฯ ผลจากการทดสอบทดลอง และการวิจัยและพัฒนาในโครงการนี้จะสามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ ตอบสนองนโยบาย ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น

Advertisement

รองศาสตราจารย์สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมคณาจารย์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกรายในการวางแผนพัฒนาโครงข่ายและรูปแบบบริการต่าง ๆ พร้อมแล้ว นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมมือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ บริษัทสตาร์ทอัพและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างให้เกิดระบบนิเวศน์ของการพัฒนาเทคโนโลยีและบริการ 5G ของประเทศ

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image