กรมบัญชีกลางเผยจ่ายเงินช่วยคนจนม.ค.เฉียด 4 พันล้านบาท

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางจ่ายเงินสำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ 14.5 ล้านราย ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 มกราคม 2562 รวมทั้งสิ้นกว่า 3,826.6 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้จ่ายที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ 3,340 ล้านบาท ร้านค้าชุมชนกองทุนหมู่บ้าน 63.07 ล้านบาท ร้านถุงเงินประชารัฐ 348.73 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 25.12 ล้านบาท รถไฟฟ้า (รฟม.) 4.8 ล้านบาท รถ บขส. 18.1 ล้านบาท รถไฟ 26.36 ล้านบาท และรถ ขสมก. 67,360.50 บาท

นางสาวสุทธิรัตน์กล่าวว่า นอกจากนี้กรมบัญชีกลางโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-มันนี่) ของผู้มีสิทธิ โดยโอนเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (50/100 บาทต่อคนต่อเดือน) จำนวน 4,509,666 ราย เป็นเงิน 416.09 ล้านบาท เงินมาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีรายได้น้อยได้ชำระ แบ่งเป็น 5% โอนเข้ากระเป๋าอี-มันนี่เป็นเงิน 7.6 ล้านบาท และ 1% เพื่อการออม โอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สำหรับผู้มีสิทธิอาชีพอื่นนอกเหนือจากเกษตรกรและรับจ้างทางการเกษตร เป็นเงิน 1.37 ล้านบาท บัญชีเงินฝาก ธ.ก.ส. สำหรับผู้มีสิทธิอาชีพเกษตรกรและรับจ้างทางการเกษตร เป็นเงิน 155,310.06 บาท รวมถึงมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 เป็นเงิน 1,443 ล้านบาท

นางสาวสุทธิรัตน์กล่าวต่อว่า สำหรับการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบ 2 ผ่านทางทีมไทยนิยมยั่งยืน จำนวน 3,042,735 ราย ผู้มีสิทธิได้มารับบัตรฯ แล้วจำนวน 2,937,331 ราย คิดเป็น 96.54% (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562) ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้มีสิทธิในส่วนภูมิภาคที่ยังไม่ไปรับบัตรจะต้องไปรับบัตรฯ ณ ที่ว่าการอำเภอ สำหรับผู้มีสิทธิในเขตกรุงเทพมหานครต้องไปรับ ณ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป ผู้มีสิทธิจะต้องไปรับบัตรฯ ณ สำนักงานคลังจังหวัด หรือ กรุงเทพมหานคร ตามที่อยู่ปัจจุบันที่แจ้งไว้ โดยสามารถรับบัตรได้จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2562 หากไม่มารับภายในระยะเวลาดังกล่าวจะถือว่าสละสิทธิ์

นางสาวสุทธิรัตน์กล่าวว่า กรมบัญชีกลางโอนเงินตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4 มาตรการ ให้กับผู้ถือบัตรฯ รอบ 2 เรียบร้อยแล้ว โดยโอนเข้ากระเป๋าเงินอี-มันนี่ดังนี้ มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย 500 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียว ให้กับผู้มีสิทธิจำนวน 3,021,119 ราย เป็นเงิน 1,511 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป 1,000 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียว จำนวน 560,946 ราย เป็นเงิน 561 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่พักอาศัย 400 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวน 19,506 ราย เป็นเงิน 7.8 ล้านบาท

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจ กับ Line@มติชนเศรษฐกิจใกล้ตัว

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image