กุลิศเดินสายหรือ5กระทรวงสำคัญแก้ปมขัดแย้ง-ชาวบ้านเข้าใจ ใช้งบกองทุนอนุรักษ์หนุนกว่า5,000ล้านบาท รื้อบทบาทพลังงานจังหวัด ขอกำลังคนเพิ่ม115คนเข้าถึงชุมชน
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการทำงานให้สามารถเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ป้องกันความขัดแย้ง หรือความเห็นต่างๆระหว่างหน่วยงาน รวมทั้งปรับการทำงานของพลังงานทั่วประเทศ โดยแนวทางหลักคือการทำงานร่วม 5 กระทรวงสำคัญ เพื่อให้แผนการทำงานด้านพลังงานของประเทศสามารถเชื่อมโยง ประชาชนเข้าถึง ล่าสุดหารือร่วมกับมหาดไทยผลการหารือได้ข้อสรุปให้พลังงานจังหวัดทั่วประเทศซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 4-5 คนต่อจังหวัดเข้าไปทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งการเข้าอำนวยความสะดวก ร่วมตรวจสอบการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชนที่ปัจจุบันมีโควต้าตามแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี)ใหม่ 900 เมกะวัตต์ และกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างนำร่อง 12 โครงการ นอกจากนี้จะเข้าไปพัฒนาชุมชนที่จังหวัดมีข้อมูลอยู่แล้ว ลักษณะชี้เป้า พลังงานจังหวัดจะร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นนำองค์ความรู้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเหลือ อาทิ ติดตั้งพาราโบลาโดม (ระบบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์)เพื่อแปรรูปสินค้าเกษตรในชุมชน สนับสนุนระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์) การนำซังข้าวโพดมาทำเป็นถ่าน การสนับสนุนให้ปลูกพืชพลังงานทดแทนและประสานกับโรงงานในการรับซื้อ นอกจากนี้ยังหารือถึงแนวการทำงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงที่จะต้องมีการขยายสายส่งตามแผนพีดีพี
“จะให้พลังงานจังหวัดร่วมกับชุมชนจัดทำโครงการขอใช้งบจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานที่จัดสรรทุกปีกว่า 10,000 ล้านบาท อย่างปีงบฯ2562นี้กองทุนฯอยู่ระหว่างการพิจารณางบกลางปีที่เหลือประมาณ 9,000 ล้านบาท จากคำขอ 38,000 ล้านบาท โดยจะที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเริ่มใช้งบตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 โดยจากการพิจารณาเบื้องต้นกว่า50%ของวงเงินจะเข้าไปสนับสนุนพลังงานในชุมชน และปีงบฯ2563 จะกำหนดเกณฑ์คำขอใช้งบที่มุ่งพัฒนาชุมชน และมีพลังงานจังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบการใช้เงินให้เกิดความโปร่งใส”นายกุลิศกล่าว
นายกุลิศกล่าวว่า ผลการหารือกับกระทรวงคมนาคม ได้ข้อสรุปด้านการเตรียมความพร้อมของระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการลงทุนด้านรถไฟทางคู่ และภายในสัปดาห์นี้จะเดินสายหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรื่องการพัฒนามาตรฐานน้ำมันยูโร5 การใช้พื้นลุ่มน้ำในการสำรวจด้านพลังงานต่างๆ กระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องแผนรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)ในประเทศ กระทรวงเกษตรฯเรื่้องการใช้พื้นที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ด้านพลังงาน
นายกุลิศกล่าวว่า อย่างไรก็ตามในการทำงานพบว่าพลังงานจังหวัดยังขาดบุคลากรจำนวนมาก บางจังหวัดไม่มีฝ่ายบัญชีจึงให้วิศวกรมาทำแทนจึงเกิดความผิดด้านข้อมูลส่งผลไปถึงการใช้งบประมาณด้วยความไม่ตั้งใจ ล่าสุดตนจึงทำเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)ขอเพิ่มบุคลากรเพิ่มอีก 115 คน และขอให้ยกระดับพลังงานจังหวัดทั่วประเทศเป็นซี9 จากปัจจุบันทั้งประเทศมีซี9เพียง16คน ที่เหลือเป็นซี8 เพื่อการทำงานหลังจากนี้สอดรับนโยบายของนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ต้องการให้กระทรวงพลังงานปรับบทบาทเข้าถึงประชาชน ไม่ใช่เครื่องมือนายทุนตามที่บางฝ่ายโจมตี
