ผู้เขียน | พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก |
---|
สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 1 อธิบายว่า กรมรักษาพระองค์ มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เป็นกรมสังกัดฝ่ายกลาโหม แบ่งออกเป็น กรมรักษาพระองค์ซ้าย และกรมรักษาพระองค์ขวา ทำหน้าที่ประจำรักษาองค์พระมหากษัตริย์ในเวลาเสด็จพระราชดำเนินทั้งทางบกและทางน้ำ ทั้งในการสงครามและการเสด็จประพาส
ทหารในหน่วยนี้จะถวายการรับใช้ใกล้ชิดเมื่อประทับในพระบรมมหาราชวัง พระมหากษัตริย์ ทรงถือว่าคนในกรมรักษาพระองค์เป็นคนใกล้ชิดและเป็นกำลังส่วนพระองค์ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย
กรมรักษาพระองค์ ถึงจะเป็นกรมฝ่ายกลาโหมก็ไม่ได้ขึ้นกับสมุหพระกลาโหม แต่ขึ้นตรงกับพระมหากษัตริย์
ผู้เขียนค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักงานราชบัณฑิตสภา เพื่อมาแบ่งปันครับ…
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่า ไพร่พลในกรมรักษาพระองค์ นั้น ส่วนใหญ่มาจากคนในกรมของพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ เรียกว่า ข้าหลวงเดิม เพราะถือว่าเป็นคนที่ไว้วางพระราชหฤทัย เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโอนข้าหลวงเดิมมารักษาพระองค์
กรมรักษาพระองค์ในแต่ละแผ่นดิน จึงมีไพร่พลเป็นเหล่าข้าหลวงเดิมเกือบทั้งสิ้น
ต่อมาในสมัยในหลวง ร.5 กรมรักษาพระองค์มีจำนวนกรมย่อยรวม 6 กรม และมีกำหนดเกณฑ์เข้าเวรเดือนละ 200 คนต่อกรม ซึ่งนับว่ามีจำนวนน้อยมาก
ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการฝึกหัดทหารแบบยุโรป จึงให้คัดเลือกเกณฑ์คนจากกรมรักษาพระองค์ทั้ง 6 กรมไปฝึกในกองเกณฑ์หัดทหารอย่างยุโรป และให้รวมทหารในกรมรักษาพระองค์ทั้งที่รับการฝึกแล้วและที่ยังไม่ได้ฝึก ตั้งเป็น
กรมทหารรักษาพระองค์
ต่อมาใน พ.ศ.2414 ก็โปรดเกล้าฯ ให้ยกกรมทหารรักษาพระองค์ไปรวมกับกรมทหารหน้าเพื่อให้เป็นกรมทหารแบบยุโรปที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา
นี่เป็นข้อมูลดั้งเดิมที่ค้นมา ทำให้พอเห็นภาพกำเนิด ทหารรักษาพระองค์ นะครับ
ทหารรักษาพระองค์ คือ หน่วยทหารที่มีหน้าที่ถวายความปลอดภัยและถวายพระเกียรติแด่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์อย่างใกล้ชิด
กองทัพบกอังกฤษถือได้ว่าเป็น “ต้นแบบ” ของทหารรักษาพระองค์ของโลก เริ่มจัดตั้งเป็นหน่วย “ทหารม้า” และ “ทหารราบ” เป็นหน่วยระดับ “กรม” (Regiment) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2203 ในสมัยกษัตริย์
ชาร์ลส์ ที่ 2 (ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ภารกิจหลักคือ การรักษาความปลอดภัยพระราชวังที่ประทับ
กลับมาคุยกันเรื่องประวัติหน่วยทหารรักษาพระองค์ในประเทศไทย
กิจการทหารรักษาพระองค์และทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างครั้งแรกในสยามเมื่อ พ.ศ.2402 ในขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมบุตรในราชตระกูลและบุตรข้าราชการที่ยังเยาว์วัยมาทดลองฝึกหัดเป็นทหารตามยุทธวิธีแบบใหม่เช่นเดียวกับกรมทหารหน้า ซึ่งในชั้นแรกนั้นมีจำนวน 12 คน ทำหน้าที่ไล่อีกาที่บินมารบกวนในเวลาในหลวงทรงบาตร
ในช่วงเวลานั้นมีฝูงอีกาจำนวนหนึ่งที่จะบินโฉบลงมาแย่งอาหารจากในหลวง ร.4 และพระราชวงศ์ที่ใส่บาตรพระสงฆ์ในตอนเช้า
เยาวชนทหารฝึกหัดทั้ง 12 คนนี้ ต้องไปตั้งแถวรับเสด็จ ณ พื้นที่ทรงบาตรทุกเช้า นานวันต่อมาจึงถูกเรียกว่าทหารมหาดเล็กไล่กา อันเป็นจุดเริ่มต้นของกิจการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ของสยาม
ต่อมาในช่วงปลายปี พ.ศ.2411 รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.5 หลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกผ่านพ้นไปแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมทหารมหาดเล็กข้าหลวงเดิมจำนวน 24 คน ตั้งขึ้นเป็นหน่วยทหารอีกหน่วยหนึ่ง เรียกว่า ทหารสองโหลถือปืนชไนเดอร์ มีหน้าที่เฝ้าพระฉากในตอนเช้าและตอนเย็น
พ.ศ.2413 ในหลวง ร.5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุรศักดิ์มนตรี (แสง ชูโต) จางวางมหาดเล็ก คัดเลือกบรรดาบุตรหลานในราชตระกูลและบุตรข้าราชการที่เป็นทหารมหาดเล็ก เพื่อจัดตั้งเป็น
กองทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทำหน้าที่รักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด และตามเสด็จในเวลาเสด็จประพาสหัวเมือง ในชั้นต้นคัดเลือกไว้ 48 คน เมื่อรวมทหารมหาดเล็ก 2 โหลเดิมด้วยแล้ว จึงมีทหารมหาดเล็กทั้งหมด 72 คน
เมื่อการปฏิบัติหน้าที่กว้างขวางขึ้น จำนวนทหารที่มีอยู่เดิมจึงมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุรศักดิ์มนตรีไปคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นทหารเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ประสบปัญหาเรื่อง “ไม่มีคนสนใจ”
เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจต่อชายหนุ่มชาวสยาม พระยาสุรศักดิ์มนตรี (แสง ชูโต) ได้นำบุตรชาย คือ นายเจิม ชูโต (ต่อมาคือเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจิม แสง-ชูโต) เข้าไปถวายตัวเป็นทหารมหาดเล็ก
รักษาพระองค์ โดยสมัครเป็นตัวอย่างคนแรก
เมื่อลูกผู้ใหญ่ระดับนี้ไปสมัครเป็นทหาร จึงเป็นแบบอย่างที่ดี ต่อมามีชายหนุ่มมาสมัครเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์เพิ่มขึ้น ประจักษ์ชัดเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลในการที่บุตรหลานของตนได้เข้ารับราชการใกล้ชิดพระมหากษัตริย์
เมื่อมีจำนวนชายหนุ่มพอเพียง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งหน่วยทหารดังกล่าวขึ้นเป็น กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และทรงดำรงพระยศเป็นนายพันเอก ตำแหน่งผู้บังคับการกรมด้วยพระองค์เอง
ในปี พ.ศ.2414 โปรดเกล้าฯ ให้จัดระเบียบในกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์จนมั่นคงดีขึ้น และได้ทรงขนานนามหน่วยนี้เสีย
ใหม่ว่า กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และในเวลาต่อมาคือ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
พัฒนาการกิจการทหารรักษาพระองค์ คือ การก่อตั้งหน่วยทหารรักษาพระองค์ที่เป็นหน่วยกำลังรบจากเหล่า ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ ฯลฯ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับกองพัน และหน่วยบังคับบัญชาของหน่วยนั้นในระดับกรมมักจะตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้อยู่ใกล้ชิดองค์พระมหากษัตริย์ สะดวกต่อการถวายงาน
ลองไปตรวจสอบข้อมูลของทหารรักษาพระองค์ในอังกฤษกันบ้าง ซึ่งปกติมีหน่วยทหารรักษาพระองค์ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่คุ้นตานักท่องเที่ยว ที่จะต้องไปขอถ่ายรูปด้วยเสมอ อันเหตุมาจากความสง่างามของท่าทาง เครื่องแบบสีสันฉูดฉาด
ที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานโอกาสให้เหล่าทหารจากประเทศต่างๆ ในเครือจักรภพสับเปลี่ยนกันมาปฏิบัติหน้าที่รักษาพระองค์
ปี พ.ศ.2543 ออสเตรเลียส่งหน่วยทหารรักษาพระองค์มาปฏิบัติหน้าที่ในลอนดอนซึ่งกำลังพลในหน่วยนี้มีทหารหญิงอยู่ด้วย
พ.ศ.2550 กองทัพบกอังกฤษเปิดรับทหารหญิงเข้ามาเป็นทหารหญิงรักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พฤษภาคม พ.ศ.2555 มีหน่วยตำรวจของแคนาดาไปทำหน้าที่หน่วยรักษาพระองค์ในลอนดอนและหน่วยนี้มีตำรวจหญิงรวมอยู่ด้วย
มิถุนายน พ.ศ.2560 หน่วยทหารรักษาพระองค์ที่สร้างประวัติศาสตร์ในอังกฤษ มีผู้บังคับหน่วยชื่อ ร้อยเอกหญิง เมแกน คูโต อายุ 24 ปี เธอรับราชการในกองพันทหารราบเบาที่ 2 รักษาพระองค์ในเจ้าหญิงแพทตรีเซีย ของแคนาดา
ร้อยเอกคูโตกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนกองทัพแคนาดา และเป็นตัวแทนผู้หญิงที่ได้มีโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญนี้
ก่อนปี พ.ศ.2559 ทหารหญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมปฏิบัติภารกิจสู้รบภาคพื้นดินในกองทัพบกอังกฤษ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีสตรีอังกฤษคนใดเคยเป็นหัวหน้าหน่วยทหารรักษาพระองค์
ผู้กองคูโตบอกว่า “ในแคนาดา ผู้หญิงทำตำแหน่งไหนก็ได้ รวมถึงนาวิกโยธิน ทหารราบ สำหรับเรานี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ผู้หญิงจะรับตำแหน่งนี้”
ร.อ.หญิง เมแกน คูโต จากกองทัพแคนาดา เป็นทหารหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การทหารอังกฤษ บังคับบัญชาทหารจำนวน 40 นาย
เธอเป็นผู้บังคับหน่วย ทำพิธีเปลี่ยนทหารยามทหารรักษาพระองค์ ที่พระราชวังบัคกิงแฮม ในกรุงลอนดอน เนื่องในโอกาสที่กองร้อยของเธอเดินทางเยือนอังกฤษ เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 150 ปี ประเทศแคนาดา
ตามปกติ การทำหน้าที่นี้จะเป็นของกองทัพอังกฤษ และหัวหน้า
เวรยามทหารรักษาพระองค์ก็มักจะเป็นผู้ชายเท่านั้น
ในประวัติศาสตร์กิจการทหารรักษาพระองค์ ยังไม่เคยมีหญิงอังกฤษคนใดเคยได้รับเกียรตินี้มาก่อน
เรียบเรียงโดย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก