พาณิชย์รุกเพิ่มตลาดใหม่ดันส่งออกโต8% ห่วงบาทแข็งกระทบเกษตรวอนแบงก์ชาติดูแลใกล้ชิด ฟากผู้ว่า ‘วิรไท’ คาดแจงพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงพาณิชย์ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมติดตามงานกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาริชย์ยังคงเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปี 2562 เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปี 2561 ซึ่งแม้ว่า ปี2561 อัตราการเติบโตของมูลค่าส่งออกจะชะลอลง และต่ำกว่าเป้าหมายที่พาณิชย์คาดการ์ไว้เล็กน้อย แต่ยังถือว่ามูลค่าส่งออกยังอยุ่ในแดนบวก ปีนี้ในส่วนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์มีแผนงานที่จะเร่งผลักดันการส่งออกตลอดทั้งปี แม้ว่าปีนี้การส่งออกจะมีปัจจัยกดดันโดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐและจีน นโยบายเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศคู่ค้าของไทย ซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ จึงพยายามทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น มอบหมายกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทั้งในด้านตลาดเดิมและตลาดใหม่ เช่น การทำตลาดจีนรายมณฑล อินเดีย ละตินอเมกา เป็นต้น
รวมทั้งหากำลังซื้อในต่างประเทศเข้ามาซื้อสินค้าไทย

“ความกังวลใจผู้ส่งออกส่วนใหญ่เป็นเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลยืนยันว่ามีการดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็พยายามหาตลาดใหม่มาทดแทน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราขอทาง ธปท. คือ ขอให้ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนของไทยให้ไม่ต่างกับประเทศคู่ค้าคู่แข่งและอยากให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวน ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. ได้มีการประสานงานกับธปท. อย่างใกล้ชิด ซึ่งอยากให้ผู้ประกอบการมั่นใจหระทรวงพาณิชย์มีการดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอยู่โดยการประสานกับ ธปท.” นางสาวชุติมา กล่าว

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สคน. กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท. จะมีแถลงข่าวที่ธปท. ในประเด็นอื่น แต่ธปท. จะมีการสื่อสารถึงประเด็นค่าเงินบาทด้วย คาดว่าจะมีการอธิบายให้เข้าในสถานการณ์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปี 2561 ที่ผ่านมา ค่าเงินบาททั้งปีแข็งค่าขึ้น 5% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งแม้ว่าเงินบาทจะแข็งแต่มูลค่าการส่งออกยังขยายตัวได้ดี ซึ่งค่าเงินบาทปัจจุบันที่ประมาณ 31 บาทในขณะนี้ย้อนไปปี 2561 ก็เห็นค่าเงินบาทที่ระดับนี้เช่นกันในช่วงต้นปีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มากระทบปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา คือ สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจ ทั่วโลกและคู่ค้าสำคัญชะลอตัว ซึ่งยังต้องติดตามทั้งสถานการณ์การส่งออกและโดยเฉพาะสินค้าที่ไทยเป็นซัพพลายเชนให้กับทั้งสองประเทศ

“ค่าเงินบาทแข็งส่งผลต่อการการแข่งขันของสินค้าไทยให้ลดลงหรือไม่นั้น ด้านสินค้าอุตสาหกรรมไม่กระทบมากนัก เพราะมีการเข้าเข้าสินค้าทำให้ส่วนต่างจากการนำเข้ามาชดเชยการส่งออก แต่มีความกังวลภาคเกษตร เพราะอาจจะส่งออกได้รายได้ที่ลดลง ซึ่งปีที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวค่อนข้างดีต้องติดตามสถานการณ์ของปีนี้ต่อ“ นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว

Advertisement

เกาะกระแสเศรษฐกิจใกล้ตัว กับมติชน คลิ๊ก!

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image