เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.)ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนหาตัวผู้ทำปลอมและแพร่ราชกิจจานุเบกษาปลอม คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งย้ายผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ว่า ยืนยันว่าขณะนี้ทราบเพียงไอพีแอดเดรสที่แพร่เอกสารนี้ออกมายังไม่มีการคุมตัวใคร โดยทราบพิกัดผู้ทำอยู่ในประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป เบื้องต้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติ จึงต้องนำไอพีไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันตัวบุคคลให้ได้ และยังไม่สามารถชี้ชัดว่าทำเป็นขบวนการหรือไม่ ต้องให้ได้ตัวก่อน จึงจะสอบสวนได้ กรณีคล้ายกับกรณีที่มีการแพร่ข้อมูลเท็จโดยทำและแพร่ในประเทศกัมพูชา เมื่อตำรวจไทยสืบสวนสอบสวนได้ก็ให้ส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย ครั้งนี้ก็คล้ายกันตอนนี้เรารู้ว่าอยู่ในยุโรป ก็จะต้องประสานตัวมาดำเนินคดีในไทย
ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขีดเส้น 7วันต้องออกหมายจับ นั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว ตอนนี้ถือว่าคืบหน้าไปมากแล้ว ตอนนี้ไม่ถึง 7วันก็ทราบไอพีแอดเดรสของคนปล่อยเอกสาร อย่างไรก็ตามใน 2-3 วันนี้อาจรู้ตัวว่าเป็นใคร และฝากเตือนคนที่แชร์ว่ามีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯเช่นเดียวกับคนทำ
