เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ชุดสืบสวนขยายผลยาเสพติด ศอ.ปส.ภ.5 สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 และ สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ควบคุมตัวนางวีณา ผ่านเมือง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 311 หมู่ 2 ต.ห้วยยางขาม อ.จุน จ.พะเยา น.ส.สุภา ก้องวงศ์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 26 หมู่ 10 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และ น.ส.สุภาพร วงศ์มาดหมาย อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 99/221 หมู่ 7 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆค 8980 กรุงเทพ โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ส่งดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
โดยการดำเนินคดีมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมากมาจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้านดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อจะไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้จึงได้ออกติดตามกระทั่งต่อมาพบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวขับผ่านจุดตรวจแม่งอน ต.แม่งอน อ.ฝาง มุ่งหน้าไปทาง อ.ฝาง เมื่อกลางดึกวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ทาง พ.ต.ท.อนันชัย พอพิน สารวัตร กก.สส.1 ภ.5 พ.ต.ท.สามารถ บุญตันสา สารวัตร ศอ.ปส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 จึงได้วางกำลังสกัดกั้นตอนขากลับกระทั่งต่อมาพบมุ่งหน้าใช้เส้นทาง ต.แม่คะ อ.ฝาง ไปยัง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าได้ไปรับยาเสพติดมาแล้วจึงได้วางกำลังสกัดตรงสามแยกแม่ลาว บ้านร่องศาลา หมู่ 3 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย กระทั่งเวลา 10.30 น.วันที่ 16 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวเลี้ยวขวาไปบนถนนพหลโยธินจึงให้ด่านตรวจตู้ยามป่าตึง ต.ดงมะดะ สกัดเอาไวได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้นรถคันดังกล่าวปรากฎว่าพบมีการทำเป็นช่องลับเป็นช่องว่างตัวถังรถยนต์ปรากฎว่าพบของกลางเป็นห่อยาบ้าจำนวน 250 มัดๆ ละ 2,000 เม็ด รวมทั้งหมด 500,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่เต็มจึงได้จับกุมตัวนางวีณาคนขับและอีก 2 คนที่เป็นผู้นั่งโดยสารในรถเอาไว้ เมื่อนำมาสอบปากคำเบื้องต้นให้การว่าตรงกันว่าได้รับจ้างขนของกลางมาจากนายวีไม่ทราบนามสกุลอายุประมาณ 35-40 ปีชาว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เป็นเงินจำนวน 208,000 บาท โดยรับล่วงหน้ามาก่อน 8,000 บาทเพื่อไปส่งที่สาถนีขนส่ง จ.พะเยา เมื่อแล้วเสร็จจะได้รับเงินที่เหลืออีก 200,000 บาทดังกล่าวจากนั้นมีแผนจะนำมาแบ่งกันโดยนางวีณาจะได้รับ 100,000 บาทและอีก 2 คนจะได้ส่วนแบ่งคนละ 50,000 บาท
อย่างไรก็ตามต่อมาให้การวกวนอีกว่าจะนำของกลางไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่จึงเห็นว่าทั้งหมดไม่ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำเพราะกลับคำให้การไปมาจนทำให้ไม่สามารถขยายผลต่อไปถึงผู้บงการที่แท้จริงได้ จึงได้ตรวจสอบประวัติรถยนต์พบว่าเคยขับไปมาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ถึง 7 ครั้ง จึงสงสัยว่าจะถูกใช้เพื่อขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่นางวีณาและ น.ส.สุภา เคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วจึงนำตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
