มูลนิธิแรงงานสากลแห่งประเทศญี่ปุ่นจัดการประชุมนานาชาติไตรภาคี “JILAF International Conference for SGRA” สำหรับแรงงานนอกระบบที่ด้อยโอกาส โดยผ่านทางเครือข่ายองค์กรนายจ้างและองค์การลูกจ้างสากล SGRA (JILAF International Conference for SGRA) โดยมีนายวิวัฒน์ จิระพันธุ์วาณิช รองปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายฮิโรชิคาวามูระ อัคราชทูตประเทศญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย นายสุวิทย์ แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์แรงงานโลกประจำประเทศไทย นายฮิโรยูกิ นากูโม่ ประธานมูลนิธิแรงงานสากลแห่งประเทศญี่ปุ่น
นายมาซาบิชิ วาตานาเบ้ ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศกระทรวงแรงงานสาธารณสุข แรงงานสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น และนางสาวโจนิ ซิมสัน ผู้แทนผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ประจำเอเชียแปซิฟิก ร่วมบรรยายเปิดงาน ที่โรงแรมอวานี เอเทรียมกรุงเทพฯ
การจัดประชุมนานาชาติไตรภาคีในครั้งนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น, ไทย, เนปาล, บังคลาเทศ, ลาว, เวียดนาม, ศรีลังกา และกัมพูชา โดยมีเนื้อหาการประชุมเกี่ยวกับการสรุปภาพรวมของโครงการในที่ทำในปีที่ผ่านมา ได้แก่กิจกรรมการสัมมนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบ กิจกรรมการฝึกอาชีพ กิจกรรมการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งเสนอโครงการและแผนงานในปีงบประมาณ 2019
นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ประธานองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แรงงานนอกระบบเป็นกําลังแรงงานส่ว นใหญ่ของประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ มีความสําคัญเปรียบเสมือนรากของต้นไม้ที่จะช่วยยึดโยงให้ต้นไม้สามารถยืนต้นอยู่ได้ รวมทั้งมีหน้าที่หล่อเลี้ยงให้ต้นไม้แข็งแรง ประเทศจะมีความเข้มแข็ง ยืนหยัดมีความมั่นคง มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปข้างหน้าได้เท่าเทียมกับประเทศและภมูิภาคอื่นได้ ประชากรต้องมีความเป็นอยู่ที่มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน ดังนั้นการพัฒนายกระดับความเป็นอยู่ของกําลังประชากรในทุกระดับ รวมทั้งประชากรระดับ รากหญ้า จึงมีความจําเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่จะชี้วัดได้ว่า ประเทศมีความมั่งคงคือ ประขากรสามารถยืนหยัดด้วยตนเอง มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวอย่างเพียงพอ มีความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับความคุ้มครองทางสังคม และมีรายได้หรือเงินออมไว้ใช้ดํารงชีพตนเองยามชราภาพ
สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยตระหนักในเรื่องนี้จึงได้ดําเนินการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนายกระดับความเป็นอยู่ของประชากรระดับรากหญ้าและแรงงานนอกระบบให้ดีขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงในประเทศและภมูิภาคแห่งนี้
สภาองค์การนายจ้างแห่ง ประเทศไทย ขอขอบคุณมูลนิธิแรงงานแห่งประเทศญี่ปุ่นและรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ที่จัดให้มีโครงการสนับสนุน และพัฒนาประชากรระดับรากหญ้าที่ประเทศไทยและอีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ รวมทั้งเปิดโอกาสให้สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยเข้าร่วมเป็นคณะทํางานตั้งแต่เริ่มโครงการและตลอด 8 ปีที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสอันดีที่วันนี้มีหลายประเทศมาร่วมประชุม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความร่วมมือในการพัฒนายกระดับความเป็นอยู่ของประชากรระดับที่เป็นกําลังแรงงานส่วนใหญ่ของแต่ละประเทศและภูมิภาคนี้
